Vol9 PL - Spoiled

Spoiled - Overlord 9 Prologue
Prologue
-มาเร่และออร่าขี่มังกรมายังจักวรรดิ์ในฐานะทูตแห่งนาซาริคเพื่อเรียกจิคนิฟไปขอขมากระรอก ที่ส่งพวกเวิร์คเกอร์เข้าไปในนาซาริค
-มาเร่เชือดคนของจักรวรรดิ์ไป117คนด้วยเวทแยกแผ่นดิน แล้วในนั้นมี1ใน4อัศวินที่เก่งที่สุดของจักรวรรดิ์อยู่ด้วย
-จิคนิฟมองหาข้อมูลจากมาเร่และออร่า แต่แปลกใจที่ว่าหากมาในฐานะทูตแล้วรูปร่างภายนอกก็สำคัญแต่กระรอกยังส่งเด็กมาอีก
-จิคนิฟคิดว่ามันเป็นการดูถูก พร้อมเป็นการแสดงให้เห็นความสามารถส่วนนึงด้วย แต่ถ้าจะแสดงฝีมือก็ควรจะใช้มังกรที่ขี่มา จึงทำให้จิคนิฟอ่านเป้าหมายที่แท้จริงไม่ออก จิคนิฟตัดสินใจที่จะรวบรวมข้อมูลว่าทั้งคู่มาเพื่ออะไรกันแน่ ทั้ยังต้องการที่จะรู้ว่ากระรอกทำยังไงถึงรู้ข้อมูลของทางจิคนิฟได้
-ปกติก็คงจะส่งองครักษ์เข้าไปจัดการแล้ว แต่จิคนิฟคิดว่าถึงส่งไปก็กลายเป็นศพเปล่าๆ เลยพาคนมาด้วยเพียง5คน คือ1ใน4อัศวิน,ฟูลเดอร์,และราชเลขาอีก3คน แม้จะรู้ว่าเก็บศพกลับไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะที่จักรวรรดิ์ไม่มีคนใช้เวทชุบ ชีวิตได้ นักผจญภัยระดับอันดามันไทต์ที่อยู่ในจักรวรรดิ์ก็ไม่มีความสามารถถึงขนาด นั้น พวกนักบวชก็เหมือนกัน คนที่ใช้เวทคืนชีพได้ที่อยู่ใกล้ๆนั้นก็มีพวกราชอาณาจักรและศาสนจักร
-เหตุผลที่จิคนิฟให้เก็บศพมาก็เพราะเสียดายเมจิกไอเท็ม จิคนิฟเข้าพบมาเร่กับออร่าที่รออยู่หลังจากทักทายก็เรียกเมดให้มาจัดหา เครื่องดื่ม เมดที่เข้ามาแม้จะชำนาญก็ยังรู้สึกเกร็งต่างจากทุกครั้ง เพราะมาเร่และออร่าที่ดูสวยจนน่าตกใจ
-พอเมดจัดวางเครื่องดื่มและของหวานให้ครบคนก็ออกไปนอกห้อง จิคนิฟเชิญให้ลองกิน ออร่าทำหน้ารู้สึกเบื่อแล้วยกแก้วขึ้นมา จิคนิฟมั่นใจว่าภาชนะบ่งบอกถึงอำนาจของจักรวรรดิ์ได้อย่างดี ออร่าและมาเร่ยกดื่มอย่างไม่ลังเล จิคนิฟเลยคิดว่าทั้งคู่คงจะใช้เวทกันพิษไม่ก็อาจจะมีเหตผลอื่นอยู่ แล้วออร่าก็บ่นว่าไม่อร่อยเลยซักนิดแถมไม่มีผลลัพท์พิเศษด้วย
-จิคนิฟรู้สึกโมโหแต่ก็ไม่โง่ขนาดแสดงท่าทีหยาบคาบใส่ออร่าทั้งยังคิดอีกว่า ออร่าหวังเล็งให้ตนใส่ยาพิษมาด้วยรึไง มาเร่ตักเตือนออร่าว่าเสียมารยาท จิคนิฟถึงได้รู้ว่าออร่าเป็นเด็กผู้หญิงแต่ยังเข้าใจผิดอยู่ว่ามาเร่เป็น น้องสาว ทั้งยังคิดจะชักชวนให้มาเร่ให้มาเข้ากับฝ่ายจักรวรรดิ์ แต่ก็นึกวิธีดีๆไม่ออก
-แต่จิคนิฟก็ยังไม่ลืมการสังหารหมู่ของมาเร่ หากพลาดก็เหมือนกับยื่นมือเข้าปากมังกร จิคนิฟแนะนำตัวและถามชื่อของมาเร่ ทั้งยังถามเรื่องที่ว่ากระรอกบอกว่าหากไม่มาขมาจะทำลายประเทศนี่หมายความว่า ฝ่ายตนต้องไปใช่ไหม ออร่าก็สอดแว๊ดขึ้นมาว่ามันแหงอยู่แล้ว จิคนิฟรู้สึกได้ว่าสายตาของออร่านั้นมองมนุษย์ไม่ต่างจากแมลง เรื่องที่ส่งเวิร์คเกอร์ไปนาซาริคแม้จะเป็นเรื่องจริงแต่ก็ไม่รู้ว่าทางนาซา ริครู้เรื่องถึงไหน ปกติแล้วคงจะส่งทูตเข้าไปหาข้อมูลก่อนครั้งนึงแต่จิคนิฟไม่แน่ใจว่าจะได้ผล กับกระรอกแต่ยังไงก็ต้องตรวจสอบขอบเขตของนาซาริค
-จิคนิฟถามว่าคนสั่งให้มาคือตัวกระรอกเองใช่ไหม ทั้งคู่ทำท่าแปลกใจแล้วตอบไปตามตรง จิคนิฟยังคิดอยู่ว่ากระรอกเป็นใครกันแน่เพราะยังหาจุดร่วมของดาร์คเอ ล์,สุสานและมังกรไม่เจอ เลยคิดไปว่ากระรอกอาจจะเป็นหัวหน้าเผ่าดร์คเอลฟ์ที่ใช้มังกรแต่ก็ไล่ความคิด นั้นไปแล้วตั้งหน้าตั้งตาหาข้อมูลต่อ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้ข้อมูลของทางจักรวรรดิ์ขนาดไหนเลยคิดความเป็นไปได้ ต่างๆอย่างอาจจะมีเครือข่ายข่าวสารมากหรือตัวกระรอกเองอาจจะชำนาญการ วิเคราะห์ข้อมูลก็ได้
-จิคนิฟถามทั้งคู่ว่ากระรอกสั่งให้ขี่มังกรมารึเปล่า มาเร่ก็ตอบไปว่าใช่ ออร่าเกิดอาการหงุดหงิดที่จิคนิฟถามอะไรแปลกๆมาตั้งแต่เมื่อกี้เลยรีบให้ สรุปว่าจะมาขอโทษไหมถ้าไม่มาก็จะเอาเรื่องไปแจ้งแล้วกลับมาทำลายจักรวรรดิ์ ทิ้งซะ จิคนิฟตัดสินใจแล้วตอบไปว่าจะไปขอโทษแต่ยังแก้ตัวอีกว่าตนจำไม่ได้ว่าส่งคน ไปนาซาริคอาจจะเป็นลูกน้องส่งไปเองก็ได้ ออร่าเลยบอกว่างั้นไปกันเลย แต่จิคนิฟขอเวลาก่อนเพราะไงก็ยังมีงานบริหารเลยไปไม่ได้ทันทีระหว่าง นั้น2-3วันจะรีบจัดการงานด่วยแล้วต้องรอของขวัญขมาอีกก็ต้อง10วัน
-ออร่าบ่นว่าไม่ช้าไปหน่อยเหรอ จิคนิฟอ้างว่าถ้าเตรียมของขวัญน่าเบื่อไปก็จะเป็นการเสียมารยาททั้งตนยังจะ ต้องตรวจสอบว่าใครเป็นตัวการแต่จักรวรรดิ์ก็กว้างเลยต้องใช้เวลา จิคนิฟเห็นท่าทีสับสนเลยรู้ว่าถ้าใช้ประโยชน์จากความภักดีของทั้งสองคนตนก็ สามารถซื้อเวลาได้ ออร่าพูดขึ้นมาว่ากระรอกไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนเอาไว้ด้วยเพราะงั้นก็ให้ ขึ้นกับทางจิคนิฟ
-ออร่าเห็นจิคนิฟเงียบไปเลยทักขึ้นมา จิคนิฟเลยแก้ตัวไปว่ากำลังคิดเรื่องการเตรียมของขวัญให้กระรอก ออร่าเลยถามมาอีกว่างั้นจะมานาซาริคเมื่อไหร่ จิคนิฟบอกไปว่าถ้าเตรียมตัวเสร็จแล้วก็หลังจากนั้นอีก5วัน ออร่าเลยบอกว่าเข้าใจแล้วจะเอาไปบอกกระรอกส่วนพวกที่โดนมาเร่ฝังทั้งเป็นจะ นี่จะงัดขึ้นมาให้ไหมเพราะสภาพเนื้อบดแบบนี้คงจะยากไปหน่อย จิคนิฟเลยวานให้ออร่าเอาขึ้นมา


volumn9Chaptor 1Part2
-จิคนีฟเดินทางมาที่นาซาริคด้วยตัวเอง ก่อนจะถึงนาซาริคพอมองออกไปเจอแต่ทุ่งหญ้าซึ่งผิดจากที่คิดไว้
ที่นั่งมาในรถด้วยมี ฟลูเดอร์ซึ่งเป็นจอมเวท สัญลักษณ์ของจักรวรรดิ จิคนีฟเอาเมดมาด้วยโดยกะเอามาให้เป็นของขวัญ
พอมาถึงจิคนีฟมองไปทางซ้ายเจออาคาร(cabin)ที่ทำจากไม้ เลยสงสัยว่าเอาไม้มาจากไหนกัน เพราะไม่มีป่าใกล้ๆถ้าเอามาได้ต้องใช้แรงงานคนมาก
ประตูอาคารเป็นบานคู่ใหญ่มากประมาณ3ชั้นเลยสงสัยมากๆ โดยข้างๆจิคนีฟมี ฟลูเดอร์, บาซิวูด, รูน
รูนถามว่าให้คนที่เหลือออกมาเลยไหม? พอจิคนีฟกำลังจะตอบ ประตูอาคารไม้เปิดออกมาพอดีมีเมด2คนจากนาซาริคโผล่มา
"เมดสวยสัสๆ" จิคนีฟคิดในใจ
จิคนีฟถามฟลูเดอร์ว่า นั่นภาพมายาหรือคนจริงๆ ฟลูเดอร์ก็ตอบไม่ได้ จิคนิฟยังงงว่าทำไมเป็นมนุษย์ไม่ใช่ ดาร์คเอลฟ์
เมด2คนมาต้อนรับแนะนำตัวเองว่าชื่อ ยูริ-อัลฟ่า และ ลุปุสเรจิน่า-เบต้า ขอต้อนรับ Your Imperial Majesty Emperor Jircniv Rune Farlord El-Nix (ชื่อยาวโคตร)
จิคนีฟบอกว่า ขอบคุณกระรอกที่ส่งคนมาต้อนรับ เรียกกรูสั้นๆว่า Jir-ney ก็ได้ พร้อมยิ้มหวานใส่
จิคนีฟมองยูริ เห็นยูริไม่สนใจเลยเฟลเพราะเคยคิดมาตลอดว่าตัวเองเสน่ห์แรงต่อเพศ ญ เลยคิดว่าเมด2คนนี้ไม่น่าใช่มนุษย์ เพาะถ้าเป็นมนุษย์ต้องหลงกรูบ้างแหละ
เลยคิดต่อไปว่า เมดที่เอามาให้กระรอกไม่มีประโยชน์เลย
จิคนีฟตั้งใจไม่ให้มีเอลฟ์มาด้วยในคณะเพื่อเก็บไว้หลอกล่อ มาเร่ กะให้มาเร่ทรยศกระรอก
ยูริบอกว่า คงเรียก jir-ney ไม่ได้ ไม่สุภาพเดี๋ยวกระรอกว่า แล้วบอกว่ากระรอกยังไม่พร้อมกำลังเตรียมตัว รอก่อนนะ
จิคนีฟบอกโอเคไม่เป็นไรแล้วจะให้รอที่ไหนในอาคารไม้รึ?
ยูริบอก "ไม่ ตรงนี้แหละ"
จิคนิฟมองฟ้า ฝนกำลังมาเลยบอกว่าขอรอในรถที่มานะ แล้วพลางคิดว่าให้จักรพรรดิมารอที่ไม่สุภาพมาก
แต่ไม่มีใครกล้าค้านเพราะยังจำเรื่องที่ มาเร่ ใช้เวทตู้มเดียว ตายห่านเป็นร้อยได้
จิคนีฟคิดกว่ากระรอกเป็นคนที่ยากรับมือเพราะ ส่งมาเร่มาทีเดียวฝังความกลัวให้คนของมันได้ ต่อให้เวทของมาเร่ใช้ได้วันละครั้งแต่ใครจะกล้าลอง แล้วคนที่ทำยังเป็นแค่เด็กด้วย
ยูริบอกว่า "รอตรงนี้เลย" แต่เพราะเป็นความล่าช้าจากนาซาริค กระรอกเลยบอกยูริว่าให้เตรียมการต้อนรับให้ดี
จิคนีฟคิดว่า หืมให้เมดคุยกะกระรอกโดยตรง แปลกนะ กระรอกเคลมตัวยูริไปรึยังเนี่ย (มึงนี่หื่นจังนะ)
ยูริบอกอากาศไม่ค่อยดี รอแป๊บนะ ป๊าบเข้าให้ เมฆลอยหายไป อากาศอุ่นขึ้นทันที
จิคนีฟตกใจมาก คนอื่นก็ตกใจ เลยหันไปถามฟลูเดอร์ว่า เกิดอะไรขึ้น
ฟลูเดอร์แทบช็อกบอกว่า มันไม่ใช่ อาเคนเมจิค น่าจะเป็น ดรูอิดเมจิค น่าจะระดับ6
จิคนีฟถามต่อว่าเป็นของดาร์คเอลฟ์ใช่ไหมเพราะไม่อยากเชื่อว่ามีคนอื่นที่เป็นนักเวทที่เก่งกาจพอๆกะมาเร่อีก
ฟลูเดอร์บอกว่า "กรูก็ไม่รู้"
จิคนีฟคิดว่าฟลูเดอร์ที่แทบเป็นสุดยอดปราชญ์ในจักรวรรดิตอนนี้แทบไร้ประโยชน์
ยูริไม่สนใจสั่งให้เอาเด็กโต๊ะและเก้าอี้มาตั้งรับแขก
ประตูเปิดอีกที คราวนี้ร้องกันหมดเพราะเป็น death knight ที่ยกโต๊ะออกมา ออกมา 5ตัว
ลูกศิษย์ฟลูเดอร์ล้มไปกะพื้น พลางเพ้อว่า เป็นไปไม่ได้ ทำไม บังคับได้ไง เยอะขนาดนั้น?
จิคนีฟเลยคิดมาได้ว่าเคยได้ยินชื่อ death knight มาก่อนเลยถามว่า มันคืออะไร
ลูกศิษย์ตอบไปว่าเป็น undead ระดับ legend ที่กระทรวงเวทมนต์ขังไว้ตัวนึง แม้แต่ฟลูเดอร์ก็บังคับมันไม่ได้
จิคนีฟบอก มรึงเพ้อรึ ตำนานไร นั่นมีตั้ง5ตัว
บาซิวูดบอก ท่าไม่ดีละ เตรียมหนีกันไหม? รูนก็เตรียมเผ่นเหมือนกัน
ภาพที่ death knight กำลังจัดโต๊ะ ทำให้ไม่น่าเชื่อว่าไอ้ตัวนี้คือ undead ระดับ legend ที่แทบทำลายประเทศได้
แต่ความจริงที่ว่าแม้แต่เทพสุดอย่างฟลูเดอร์ยังบังคับมันไม่ได้แปลว่าคนบังคับได้เก่งกว่าฟลูเดอร์อย่างน้อย5เท่า
จิคนีฟไม่อยากเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อว่า กระรอกมันเทพมาก มี death knight 5ตัว มีมังกร มีนักเวท มรึงเป็นใครวะเนี่ย?
ยูริบอก โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัวนะ death knight นี่กระรอกสร้างมา มันไม่ฆ่าพวกมรึงหรอก
จิคนีฟแทบช็อก ไม่ได้บังคับเฉยๆ แต่สร้างมาเองเลย โม้ป่าวเนี่ย?
ฟลูเดอร์แทบเป็นบ้า จากการเห็นการบังคับdeath knight5ตัว บอกจิคนีฟ หนีไหม teleport เลยไหม?
จิคนีฟไม่หนี ไลนัสบอกงั้นกรูขอหนีนะ จิคนีฟบอกว่า มรึงหนีไปตอนนี้ มันอาจเห็นว่าไลนัสไม่ใช่พวกเดียวกะจิคนีฟ กรูไม่รู้นะจะเป็นยังไง
บาซิวูดบอกว่า งั้นจับ2เมดนั่นเป็นตัวประกันไหม?
จิคนีฟบอกว่า ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดนี้จะออกมาจากปากราชองครักษ์นะ แล้วมรึงคิดว่าจะทำได้รึ มรึงดู เผลอๆเมดแม่มเก่งกว่า death knight อีก
พอโต๊ะตั้งเสร็จ เมดเสริฟน้ำส้มจ้า ประตูเปิดอีกครั้ง คราวนี้มีเมดอื่นเดินออกมา
จิคนีฟช็อกอีกรอบ สวยๆทั้งนั้น ที่นี่คนสวยงอกออกมาแบบดอกเห็ดหรือไงวะ?
ฟลูเดอร์ลนมากอยากเจอกระรอกเพื่อคุยเรื่องเวทจนลืมหน้าที่จนจิคนีฟต้องปรามไว้
พอดื่มน้ำส้ม amazing กันใหญ่ ทำไมอร่อยมาก จนคิดว่าตั้งแต่เกิดมากรูมันแต่ไปกินอะไรเนี่ย ไม่แปลกใจทำไมตอนเสริฟน้ำให้ ออร่ามาเร่ มันไม่ประทับใจของที่ทางจักรวรรดิเสริฟให้เลย
กำลังเคลิ้ม ยูริบอกว่า โทษที กระรอกพร้อมละ ตามหนูมา..


volumn9Chaptor 1Part3
จิคนีฟมาถึงห้องครึ่งวงกลมคล้ายๆโรงหนังอยู่หน้าประตูบานคู่ ด้านขวาประตูเป็นนางฟ้าด้านซ้ายเป็นปีศาจ ทำให้นึกถึงประตูแห่งการตัดสิน(ว่าไปสวรรค์หรือนรก)
ห้องใหญ่มากแต่ก็เงียบมากเพราะไม่มีใครกล้าส่งเสียงอะไร คนที่ตามมามี บาซิวูดและทหาร10คน, ฟลูเดอร์กับลูกศิษย์4คน, รูน(เลขา)แล้วก็พระ ส่วนไลนัสและทหารที่เหลือรอข้างนอกนาซาริค
ประตูใหญ่มากทำให้พวกจักรวรรดิรู้สึกว่าตัวเองเป็นสิ่งมีชีวิตเล็กๆไปเลย
"มหาสุสานนาซาริค" เป็นสุสานแค่ชื่อจริงๆ ในความจริงแล้วยิ่งใหญ่กว่าที่คิดมาก
จิคนีฟคิดว่า ไอซ์อูลโกวนที่รออยู่หลังประตูเป็นนักเวทที่เหนือกว่าฟลูเดอร์ซึ่งอาจไม่มีใครในอดีตและอนาคตมีพลังเทียบเท่า
แล้วไอ้คนแบบนี้ทำไมมาซ่อนในที่นี้วะ? ยังสงสัยว่ากระรอกจะพอใจในคำขอโทษของจิคนีฟไหม
ตอนแรกจิคนีฟกะจะหาผลประโยชน์จากกระรอกเพื่ออำนาจของจักรวรรดิแต่จิคนีฟไม่ รู้ถึงความต้องการที่แท้จริงของกระรอกเลยไม่รู้จะทำยังไง เผลอๆกระรอกอาจไม่สนใจอะไรเลยที่จิคนีฟเสนอให้
จะให้ทหารหรือทหารเวทก็สู้ของกระรอกไม่ได้ เมดกรูที่เอามาแม่มก็สู้ยูริกับเมดที่เหลือไม่ได้อีก
จะให้ตำแหน่ง,ยศ ก็ไร้ประโยชน์กับคนที่อาศัยในสถานที่แบบนี้
สุดท้ายจิคนีฟก็คิดว่าคงโน้มน้าวกระรอกไม่ได้ อย่างมากอย่าให้กระรอกมองมันเป็นศัตรูก็พอ
สิ่งสำคัญที่สุดในการเจอกันครั้งนี้คือ จักรวรรดิยังอยู่ครบถ้วนและกรูรอดกลับไปได้
ยูริบอกว่า นี่คือห้องบัลลังก์ ไอซ์ซามะรอจิคนีฟอยู่ แล้วประตูก็เปิดออกเอง จิคนีฟคิดว่าดีแล้วที่ประตูเปิดเอง เพราะไม่รู้จะต้องรออีกนานไหม ภายในห้องประดับสิ่งต่างๆสวยมาก และก็มี อสูร, มังกร, สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด(ไม่รู้คืออะไร วิคทิมมั้ง), นักรบเกราะ, แมลง, เอลฟ์ ซึ่งดูโคตรมีพลังยืนเรียงราย2ข้างพรมทางเดิน
เป็นครั้งแรกที่จิคนีฟรู้สึกถึงพลังในสายตาของสิ่งที่มองมา จิคนีฟคิดว่าการคุยกับกระรอกครั้งนี้ไม่ใช่แค่การอยู่รอดของจักรวรรดิแต่ เป็นการอยู่รอดของมนุษย์และสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ด้วย
จิคนีฟมองไล่ไปตามพรม สุดพรมเป็นบันได รอบๆนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่จิคนีฟคิดว่าเป็นขุนพลของกระรอก มีผู้หญิงสวยผมเงิน, มอนสเตอร์สีครามที่คล้ายแมลง, ผู้ชายหัวกบที่ใส่สูท, ฝาแฝดเอลฟ์ เหนือขึ้นไปบนบันไดมีสาวสวยมีปีกที่หลัง หลังเธอมี บัลลังก์คริสตัลซึ่งมีสิ่งมีชีวิตที่หัวเป็นกระโหลก ซึ่งก็คือ กระรอกนั่นเอง จิคนีฟแปลกใจที่กระรอกไม่ใช่มนุษย์แต่ก็ยอมรับได้ว่าคนที่มีพลังขนาดนี้ไม่ น่าเป็นมนุษย์
"ไปกันเถอะ" จิคนีฟพูด แต่ไม่มีใครตามมาเพราะต่างกลัวที่จะเดินผ่านมอนสเตอร์เหล่านั้น
จิคนีฟรู้ว่าการจัดห้องแบบนี้ใช้สำหรับการหารืออย่างเป็นทางการและโชว์พา วของนาซาริค ถ้ากระรอกจะฆ่าจิคนีฟคงไม่ให้มาที่ห้องนี้ แต่เรื่องที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้กระรอกก็เข้าใจได้
จิคนีฟใส่สร้อยที่เป็นเมจิคไอเทมที่ป้องกันการโจมตีทางจิตแต่ก็รู้สึกว่าถ้า ไม่โฟกัสที่กระรอก ต่อให้ได้ชื่อว่า Blood Emperor ก็อาจจะคุกเข่าให้กระรอกก็ได้ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือพยายามลดความเสียหายต่อจักรวรรดิให้น้อยที่สุด
จิคนีฟพยายามโฟกัสไปที่กระรอกเพราะถ้าหลบสายตาไปทางอื่นคงไม่กล้าเดินต่อ ในที่สุดจิคนีฟก็เดินไปถึงหน้าบันได
"ไอซ์ซามะ นี่คือผู้ปกครองแห่งจักรวรรดิบาฮารูท จักรพรรดิ จิคนีฟ รูน ฟาร์ลอร์ด เอลนิก" เสียงหวานๆที่แนะนำเป็นของผู้หญิงมีปีกที่ยืนข้างกระรอก
"เรายินดีที่ท่านมา จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิบาฮารูท เราคือผู้ปกครองแห่งมหาสุสานนาซาริค ไอซ์อูลโกวน"
แต่เดมิวเอิร์กเห็นว่าพวกจักรวรรดิไม่ยอมแสดงความเคารพกระรอก เลยพูดว่า "คุกเข่า"
คนของจักรวรรดิคุกเข่าหมดยกเว้นจิคนีฟ(เพราะมีเมจิคไอเทมอยู่) คนที่อยากจะลุกพยายามยังไงก็ลุกไม่ขึ้น
กระรอกบอกว่า "พอได้แล้ว เดมิวเอิร์ก" เดมิเลยค่อยคลายเวทที่สะกดออก
กระรอกขอโทษจิคนีฟบอกว่าโทษของผู้ติดตามก็เหมือนโทษของนาย กรูขอโทษแทนละกันนะ
จิคนีฟยิ่งระวังตัวเพราะดูแล้วคิดว่ากระรอกไม่ใช่คนที่เอาชนะได้ด้วยแค่กำลังยังฉลาดอีกด้วย และได้รับการเคารพจากมอนสเตอร์รอบข้าง
จิคนีฟ บอกไม่ต้องขอโทษไม่เป็นไร แล้วก็ให้ทหารเอาโกศมาให้ ข้างในเป็นหัวของขุนนางที่แอบส่งคนเข้ามาที่นาซาริค
ยังไงคนตายก็พูดไม่ได้ จิคนีฟเลยไม่อยากให้ความลับของตัวเองรั่วออกไป
เดมิเอาโกศไปให้กระรอก กระรอกยกศีรษะมาดู แล้วก็บอกว่า เรารับคำขอโทษแล้วจะให้ทำยังไงกะหัวนี่ดี ทิ้งไปก็เสียเปล่า
กระรอกเลยเปลี่ยนหัวนั่นกลายเป็น death knight ทุกคนอึ้งแดรก "ทำได้ไง" เมดไม่ได้โกหกนี่หว่า แล้วกระรอกก็สั่ง death knight ให้ไปเข้าแถว จิคนีฟคิดว่า กระรอกสร้างได้กี่ตัวเนี่ย อันลิมิต ตราบเท่าที่มีศพ? หรือสร้างตัวที่เก่งกว่านั้นได้อีก
กระรอกเรียกจิคนีฟ ว่า Jircniv Rune Farlord El-Nix-dono แต่จิคนีฟบอกว่าชื่อกรูยาวไป เรียก"จิคนีฟ"ก็พอ
กระรอกบอกว่า โอเค คืองี้จิคนีฟ ขอโทษด้วยที่เรียกมาอย่างไกล กรูให้อภัยเรื่องส่งคนมาที่นาซาริค มรึงกลับบ้านได้ละ
จิคนีฟงง ไม่เชื่อหูตัวเองบอกขอฟังอีกทีได้มะ? กระรอกบอกว่า ไม่ต้องขอโทษ กรูโอเคถ้าจิคนีฟจะกลับบ้าน กรูกำลังยุ่งๆอยู่
จิคนีฟงงไปใหญ่ แค่เนี้ย จริงดิ มรึงพอใจแล้วรึ แต่เอะใจเลยถามกระรอกว่า ยุ่งนี่ ยุ่งเรื่องอะไรรึ?
กระรอกเลยบอกว่ากำลังวางแผนจะขึ้นไปบนพื้นโลก(นึกถึงภาพพวกขบวนการใต้ดินกำลังจะบุกโลกในเซนไตเลย)
กระรอกบอกว่าจะให้พวกโง่ที่กล้าบุกเข้ามานาซาริคได้รับการตอบแทนอย่างสาสมและกระทืบพวกที่สร้างปัญหาต่อนาซาริค
จิคนีฟคิดว่าคนอื่นที่พูดแบบนี้คงบ้าแต่ถ้าเป็นกระรอก มันทำได้ นาซาริคเป็นเหมือนยักษ์หลับที่ตอนนี้ตื่นขึ้นมาสร้างความปั่นป่วน
จิคนีฟคิดว่า นี่กระรอกเรียกมันมาประกาศสงครามรึ ถ้ากระรอกประกาศสงครามกับจักรวรรดิ กรูต้องทำไง คุกเข่าให้กระรอกรึ?
จิคนีฟเลยบอกว่า กรูมีข้อเสนอ เอาเป็นว่าเป็นพันธมิตรกันไหม?
"นี่แกสับสนอะไรของแก? อั่ก" เสียงของแม่สาวผมเงินดังมา
"โอ้ย แก" .... "เอ็งทำเสียงดัง เงียบๆหน่อย" จิคนีฟมองไม่ชัดแต่เห็นเหมือน ดาร์คเอลฟ์เตะไปที่ขาของสาวผมเงิน
กระรอกโบกมือให้เงียบๆ จิคนีฟพยายามเลือกแพลนที่ดีที่สุดโดยบอกกระรอกว่า"ตั้งประเทศเป็นความคิดที่ ดี เดี๋ยวจักรวรรดิจะส่งความช่วยเหลือและเสบียงมาซัพพอร์ตให้ คิดว่าไง"
กระรอกถามว่าทำแบบนี้จิคนีฟจะได้อะไร จิคนีฟบอกว่าเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับนาซาริคและการร่วมมือกันในอนาคต
กระรอกตอบ โอเค บอกว่างั้นเรื่องรายละเอียด จิคนีฟดูเองละกันนะ
จิคนีฟพูดอะไรไม่ออก ไม่นึกว่ากระรอกจะตอบเร็วขนาดนี้ แล้วไงต่อ กระรอกไม่ต้องให้จิคนีฟสาบานว่าจะซื่อสัตย์รึ ปกตินาซาริคที่เหนือกว่าในทุกด้าน ทำไมถึงยอมรับการเป็นพันธมิตร จิคนีฟเตรียมคำตอบไว้เพียบแต่สิ่งที่กระรอกตอบมาเหนือกว่าที่คาดหมาย ทำให้จิคนีฟไม่เข้าใจกระรอกเลย
จิคนีฟคิดว่า หรือทุกอย่างที่จิคนีฟทำมาอยุ่ในแผนของกระรอก นี่กระรอกเตรียมการทุกอย่างเผื่อไว้แล้ว (จิคนีฟมรึงนี่สกิลมโนเกิน100แล้วนะ)
จิคนีฟเลยถามกระรอกว่า อยากให้ช่วยอะไรไหม? กระรอกบอกว่าตอนนี้ยังคิดไม่ออก เอาเป็นว่า ตั้งทูตก่อนละกันแล้วก็ที่ๆให้ทูตมาเจอกันแบบสถานทูตเผื่อกรณีที่กระรอกอยาก ติดต่อจักรวรรดิ
จิคนีฟบอก เดี๋ยวกรูกลับไปก่อนนะ จะทิ้งเลขา(รูน)ไว้ที่นี่ให้ทางนาซาริคปรึกษาเรื่องรายละเอียดกับเลขาละกัน
กระรอกบอก เยี่ยม งั้นฝั่งกรู กรูให้เดมิเป็นทูตนะ เพราะเดมิไปทำกริยาไม่สุภาพกับทางคนของจักรวรรดิก่อน ถือว่าเป็นการลงโทษเดมิละกัน
"ชิบหาย โดนรุกฆาต" จิคนีฟจำได้ว่าไอ้มอนสเตอร์หัวกบเนี่ยมันสามารถบังคับจิตคนได้ด้วยเสียง มันต้องล้างสมองรูนแล้วรีดความลับทั้งหมดของจักรวรรดิไปแน่ๆ ยิ่งการที่ส่งมอนหัวกบหน้าตาโง่ๆอย่างงี้มาทำหน้าที่ทูตที่ต้องใช้ความฉลาด ถ้าทำพลาดมรึงก็โทษไอ้กบเนี่ยแทน กระรอกมึงวางแผนไว้ขนาดไหนเนี่ย (เดมิกรูกลายเป็นมอนหัวกบหน้าโง่ไปแล้ว (-_-") )
จิคนีฟกำลังจะแย้ง แต่กระรอกพูดมาก่อนว่า เดมิเป็นคนที่กระรอกเชื่อใจที่สุด กรูมั่นใจว่าไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน
จิคนีฟยิ้มอ่อน พอกระรอกพูดมา จิคนีฟรู้ว่าแย้งอะไรไปก็ไม่ได้แล้ว
กระรอกบอกว่า สถานการณ์เปลี่ยนไปละ จิคนีฟเป็นพันธมิตรแล้ว ส่งกลับบ้านตอนนี้ไม่ดีมั้ง เอาเป็นว่า ค้างที่นาซาริคไหม? คิดซะว่าเป็นการต้อนรับ
จิคนีฟคิดว่า ไม่ใช่แค่รูนคนเดียว มรึงกะเหมารวบเลยรึ จิคนีฟที่กลัวเรื่องการควบคุมจิตใจเลยรีบปฏิเสธ รีบบอกว่าไม่อยากให้ยุ่งยาก ต้องรีบกลับไปจัดการเตรียมการต่างๆอีก
กระรอกบ่นเสียดายเลยเสนอว่า เอางี้ เดี๋ยวให้ข้ารับใช้ไปส่งให้ถึงบ้าน จิคนีฟนึกภาพตัวเองขี่มังกรแต่จิคนีฟไม่อยากติดค้างกระรอกเลยปฏิเสธ บอกกลับไปว่ามายังไงก็อยากกลับแบบนั้น
กระรอกบอกเสียดาย เนี่ยกะให้ม้าไร้หัวที่สามารถวิ่งได้ทั้งวันทั้งคืนไม่หลับไม่นอนไปส่ง จิคนีฟนึกภาพตัวเองขี่ม้าไร้หัวกลับเมือง ต้องมีปัญหากับทางพระและวัดแน่ๆ เลยขอตัวกลับ
กระรอกจะให้เดมิไปส่งจิคนีฟถึงข้างนอก จิคนีฟรีบปฏิเสธ บอกว่าไหนๆแล้วหาโอกาสยาก ขอให้เมดไปส่งได้ไหม ไม่เคยเจอเมดสวยแบบนี้มาก่อน (มึงหลงยูริ มึงชอบสาวแว่น?)
จิคนีฟคิดว่ากระรอกรู้ว่าทางจักรวรรดิระแวงเดมิแต่ก็ยังจะส่งเดมิมา กระรอกโอเคเลยให้เมดไปส่งแทน
กระรอกบอกว่า วันนี้วันดีมีพันธมิตรเพิ่ม ต้องฉลอง แต่จิคนีฟคิดว่าเป็นการฉลองการมีจักรวรรดิเป็นทาสมากกว่า


volumn9Chaptor 1Part4
หลังจากจิคนีฟไปแล้ว กลุ่มนาซาริคที่เหลือมี กระรอก อัลเบโด้ เดมิ ออร่า มาเร่ โคคิวทัส แชลเทียร์ เซบาส
กระรอกมองไปที่อัลเบโด้กับเดมิเพื่อดูปฏิกริยาแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระรอกอยากหนีออกไปจากการประชุมนี้มากแต่ก็ทำไม่ได้
หลังจากที่รู้ว่าจิคนีฟมาตามแผน กระรอกลองถามเดมิอ้อมๆว่า แล้วไงต่อ เดมิดันตอบว่า "เป็นตามที่คาดการณ์ไว้ เราควรดำเนินการณ์ตามแผนต่อ" แต่กรูไม่รู้เฟ้ยว่าแผนเนี่ยแผนอะไร แต่ก็ถามเดมิไปตรงๆไม่ได้ ได้แต่ตอบเดมิไปว่า ยังงั้นรึ
กระรอกไม่มั่นใจว่าการที่ตกลงกับจิคนีฟไปยังงั้นมันโอเคแล้วรึ ระหว่างนั้นก็ได้แต่มองอัลเบโด้กับเดมิ กระรอกรู้สึกว่ายังกะสอบสัมภาษณ์งาน
แชลเทียร์ถามกระรอกว่าทำไมต้องจับมือกับจิคนีฟไม่ขยี้จักรวรรดิให้เละแทน
กระรอกรู้ว่าแผนตอนแรกคือวางแผนให้จักรวรรดิส่งคนมาบุกนาซาริคจากนั้นก็ใช้ ข้ออ้างนี้เอาคืนแล้วบังคับให้จิคนีฟมาคุยแล้วก็โชว์พลังของนาซาริคให้ จักรวรรดิเห็น
แต่ทำไมต้องโชว์กระรอกก็ไม่รู้เลยตอบแชลเทียร์ไม่ได้ ออร่าก็บอกว่า ไปที่จักรวรรดิมาแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย
พวกการ์เดี้ยนอยากรู้เหตุผลของกระรอกเพื่อที่ว่าจะได้รู้จุดมุ่งหมาย ของกระรอกจะได้รับใช้ให้ดีที่สุด เพราะอาจเกิดเหตุผิดพลาดได้เหมือนตอนแชลเทียร์กับเซบาส กระรอกเครียดเพราะไม่รู้จะตอบยังไงถ้าเห็นด้วยกับแชลเทียร์และออร่าก็ขยี้ จักรวรรดิถ้าไม่เห็นด้วยก็ยังไม่ตี แต่ว่าอันไหนคือตัวเลือกที่ถูกต้อง กระรอกก็ไม่รู้
กระรอกมองไปที่เดมิแล้วก็เรียก เดมิ เพื่อหวังให้เดมิตอบให้แทน เดมิเสือกตอบว่า โปรดให้อภัยแก่การ์เดี้ยนที่ไร้ความสามารถที่จะเข้าใจแผนของกระรอกด้วย กระรอกคิดว่า ไม่ใช่ยังงั้น ทำไมมรึงไม่อธิบายแทนวะ กรูเรียกมรึงเพื่อให้อธิบายแผน ไม่ได้ตำหนิเฟ้ย จากนั้น กระรอกเลยเรียกอัลเบโด้แทน อัลเบโด้ก็ไม่ได้ตอบแต่กลับบอกว่าซาบซึ้งในความเห็นอกเห็นใจของกระรอก
"กรูต้องการคำตอบไม่ใช่คำยอ" กระรอกคิดในใจ กระรอกเลยตอบว่า "ถ้าตีจักรวรรดิจะมีศัตรูมากไป มันไม่เหมือนกับตอนตี lizardmen การทำงานร่วมกับจักรวรรดิอยู่ในแผน" มาเร่บอกว่าการคุยกับจิคนีฟต้องมีร่องรอยของนาซาริคหลุดออกไปเลยพาจิคนีฟมา ที่นาซาริคแทนเพื่อให้หลุดไปน้อยที่สุด? กระรอกบอกว่าใช่เลย (มีคนช่วยมโน) การตั้งประเทศหมายถึงต้องปกป้องคนถ้าเปลี่ยนจักรวรรดิเป็นสุสานจะทำลายชื่อ เสียงของไอซ์อูลโกวน
สักพัก เดมิหัวเราะออกมา การ์เดี้ยนคนอื่นเลยรอฟัง เดมิบอกว่า คิดว่านี่คือแผนทั้งหมดของกระรอกรึ คิดสิ นี่มันแค่เศษเสี้ยวของแผนท่านไอซ์เองนะ กระรอกกลืนน้ำลายพลางคิดว่า "WTF ทำไมมรึงทำให้เรื่องมันยากขึ้นวะ?" ดีที่ไม่มีใครสังเกตกระรอก
เดมิบอกว่า เหล่าการ์เดี้ยนคิดว่าจะเข้าใจความตั้งใจที่แท้จริงของไอซ์ซามะด้วยคำตอบ ง่ายๆนี้รึ รีบร้อนไปแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ทำไมไอซ์ซามะไม่อธิบายแผนการทั้งหมดในทันที (สกิลมโนเดมิเกิน100ละ)
เดมิเลยบอกว่า ถึงเวลาแล้วที่ไอซ์ซามะจะบอกถึงวัตถุประสงค์ที่แท้จริงแก่พวกเรา เพื่อที่ความพยายามของพวกเราจะได้ทำให้ไอซ์ซามะบรรลุจุดประสงค์ ทุคนเลยมองมาที่กระรอกประมาณว่า โอ้ช่วยสอนเหล่าลูกแกะผู้โง่งมด้วยเถิด
กระรอกสูดหายใจลึกๆ หลายครั้งด้วย แล้วค่อยๆลุกจากเก้าอี้ หันหลังให้เหล่าการ์เดี้ยน แล้วก็พูดว่า
"ตามที่เดมิคิด อัลเบโด้เธอ มองเห็นถึงเป้าหมายที่แท้จริงฉันไหม?"
อัลเบโด้ก็ไม่สามารถบอกได้ บอกว่าไม่สามารถคิดเท่าเทียมกับกระรอกได้ เดมิบอกว่าพวกเมดเคยเรียกกระรอกว่า Wise King (ราชาที่ชาญฉลาด) ซึ่งเดมิคิดว่าเหมาะสมแล้วเพราะ นักผจญภัย โมมอน เป็นหนึ่งในแผนการณ์ของกระรอก และตอนนี้เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากในการตั้งประเทศ กระรอกก็ผงกหัวแต่ในใจกลับคิดว่า มันเกี่ยวอะไรกับโมมอนวะ ทำไมชื่อโมมอนมาเกี่ยวอะไรตอนนี้?
การ์เดี้ยนคนอื่นนอกจากอัลเบโด้และเดมิคิดตามไม่ทัน เลยขอร้องให้กระรอกช่วอธิบาย กระรอกยังคนหันหลังอยู่พลางเอามือปิดหน้า ความเครียดขึ้นขนาดจะทำให้เป็นลม พลางคิดว่าควรยอมรับดีไหมว่าตัวเองไร้ความสามารถ แต่ก็พูดออกไปไม่ได้
สุดท้ายกระรอกหันกลับมาแล้วบอกว่า "เดมิ ชั้นอนุญาติให้อธิบายแผนการที่นายเข้าใจให้แก่พวกการ์เดี้ยน
เดมิบอกว่า รับทราบแล้วก็เริ่มอธิบายให้คนอื่นฟัง


volumn9Chaptor 1Part5 ส่วนแรก
จิคนีฟนั่งรถกลับเมือง ในรถมี4คน จิคนีฟ บาซิวูด ลูกศิษย์ฟลูเดอร์ เสมียนของรูน (รูนยังอยู่นาซาริค) ส่วนฟลูเดอร์ขอแยกตัวไปปรึกษาเรื่องที่เจอมากับเหล่าลูกศิษย์เลยส่งลูกศิษย์ คนนึงมาแทนตัวเอง
ในรถบรรยากาศมาคุมากเพราะจิคนีฟ ปกติจิคนีฟได้ฉายาว่า Blood Emperor (จักรพรรดิเลือด) จะดูองอาจดูเข้มแข็ง แต่ตอนนี้ไม่เป็นยังงั้น 3คนในรถก็ไม่เคยเห็นจิคนีฟเป็นแบบนี้มาก่อน
จิคนีฟกำลังนึกถึงมหาสุสานนาซาริค จริงๆคำว่าสุสานเนี่ยไม่เหมาะสมเลยควรจะต้องเรียกว่า ปราสาทของราชาปีศาจมากกว่า
เพราะมีทั้งอสุรกายแห่งความตายที่นั่งบนบัลลังก์ การตกแต่ง การประดับต่างๆที่ดูล้ำค่าเกินกว่าที่ใครจะนึกถึง
จิคนีฟคาดการณ์ถึงเรื่องยุ่งยากที่จักรวรรดิจะต้องเจอ โดยเปรียบเทียบจักรวรรดิเหมือนสิงโตกำลังปกครองประเทศอยู่ ทันใดนั้นมังกรก็โผล่มา พวกคนในจักรวรรดิจะรู้สึกยังไง แต่จิคนีฟยังไม่ยอมแพ้
จิคนีฟเลยประชุมกับคนในรถถึงเรื่องที่เจอมาในนาซาริค จิคนีฟบอกว่ากระรอกคือมอนสเตอร์ท่ามกลางมอนสเตอร์ คนที่สามารถสร้าง Death knight ได้ ถ้าเป็นศัตรูด้วยจักรวรรดิโดนทำลายแน่ๆ ต่อให้ไม่ได้เป็นปรปักษ์ก็อาจโดนฆ่าล้างบางหมดอยู่ดีเพราะกระรอกเป็นอันเดด และคิดว่าต่อให้เอากองทัพทั้งจักรวรรดิมารวมกันก็สู้ไม่ได้อยู่ดี และเท่าที่สังเกตกระรอกมีบารมีสมเป็นราชามาก
บาซิวูดยังบอกว่า กระรอกดูน่าเกรงขามมากดูเป็นผู้นำมากกว่าจิคนีฟ
จิคนีฟบอกว่าจากประโยคที่กระรอก พูดให้แชลเทียร์กับออร่าเงียบๆ ทำให้รู้สึกว่ากระรอกเป็นพวกเผด็จการและเป็นจอมวางแผนอีกด้วย จากการที่ปล่อยจิคนีฟกลับมาง่ายๆ ทั้งๆที่มีกำลังมหาศาลแต่กลับใช้ปัญญา กระรอกต้องไม่ใช่พวกที่ใช้แต่กำลังแน่นอน ซึ่งทำให้เป็นปัญหามาก จิคนีฟพูดถึงเหล่าผู้ติดตามกระรอก โดยถามคนอื่นว่าคิดเห็นยังไงบ้าง?
"คนที่อยู่ใกล้ที่สุดน่าจะเป็นขุนพลสนิท และผู้หญิงที่มีปีกสีดำด้านหลังข้างๆน่าจะเป็น..ราชินี?" (ยินดีกับอัลเบโด้ด้วยครับ)
จิคนีฟคิดว่าอัลเบโด้สวยมากแค่รอยยิ้มของเธอก็ทำให้ผู้ชายหลายคนยอมทำ ทุกอย่างเพื่อมัน ปีกสีดำที่อยู่ข้างหลังก็ไม่น่าจะเป็นเมจิคไอเทม เลยคิดว่าอัลเบโด้น่าจะเป็น demon
"เธอน่าจะเป็นภรรยาของไอซ์อูลโกวนนะ แต่ถ้าเป็นยังงั้นไอซ์อูลโกวนจะ...ยังไง ช่างเถอะ ถ้าเป็น skeleton มันน่าจะมีแค่กระดูกหรือว่าใส่หน้ากาก? "
แล้วก็พูดถึงเดมิว่าการที่บังคับคนได้หรือว่าจะเป็น bard (ไม่รู้จะแปลไงขอทับศัพท์เลยละกันครับ) เพราะดูเหมือนกบก็สามารถร้องเพลงได้นะ เลยคิดว่าน่าจะเป็นเวทเสียงที่ใช้ควบคุมคนอื่น แล้วก็พูดถึงโคคิวตัสว่าน่าจะเป็นสปีชี่ส์แมลง แต่ก็ไม่ชัวร์ว่าจะเป็น ant-men หรือเปล่า?
บาซิวูดบอกว่า "ส่วนผู้หญิงผมเงินนั่นถ้ามองจากขนาดหน้าอกที่ใหญ่ขนาดนั้นหรือว่าจะเป็นนาง สนม?" (มรึงโดนหลอกแล้ว จ๊าดง่าวเอ๊ย ) แต่ถ้าเป็นสนมก็ไม่น่ามายืนตรงนั้น หรือว่าแข็งแกร่งเท่าแฝดเอลฟ์?
ความจริงคนที่จะอยู่ตรงนั้นน่าจะเป็นขุนพลและเสนาธิการ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนแข็งแกร่งอย่างเดียว ผู้หญิงผมเงินนั่นอาจจะไม่แข็งแกร่งแต่อาจจะเป็นนางสนมที่ชาญฉลาด ก็ได้
จิคนีฟบอกว่า ถ้าผู้ติดตามกระรอกเป็นอันเดดดหมดก็เข้าใจง่ายแต่นี่มีหลากหลายมาก บาซิวูดบอกว่าแทนที่จะบอกว่ากระรอกสะสมมอนสเตอร์น่าจะบอกว่ากระรอกมีความ สามารถมากดีกว่า
จิคนีฟบอกให้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับนาซาริคว่าเคยมีบันทึกไว้หรือเปล่า แต่ไม่มีใครตอบได้ จิคนีฟคิดว่ามันเหมือนกับการ teleport มาจากโลกปีศาจมากคิดยังงี้ยังจะง่ายซะกว่า ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอะไรคงต้องหวังกับทางรูนที่ค้างที่นาซาริค
ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้ นาซาริคแข็งแกร่งเกินไป ตอนนี้ต้องระวังอย่าทำอะไรที่จะผิดสัญญาการเป็นพันธมิตร
ตอนแรกจิคนีฟนำผู้หญิงมาด้วยเพื่อให้กระรอกจะได้ผูกมัดกระรอกกับจักรวรรดิ เพราะ sex เป็นอาวุธสากลที่ใช้ได้ทุกสมัยแต่คราวนี้กลับใช้ไม่ได้ ผู้หญิงที่กล้ามีsexกับมอนสเตอร์แบบนั้นต้องมีความกล้าอย่างมากเลยทีเดียว
การที่จิคนีฟขึ้นมาเป็นจักรพรรดิโดยรวมอำนาจทั้งหมดไว้ที่ตัวเองทำให้มีศัตรูมากมายแต่ก็ยังมีบางคนที่ไว้ใจได้เช่นฟลูเดอร์
พอจิคนีฟคิดยังงั้นก็เลยฉุกคิดถึงฟลูเดอร์ ฟลูเดอร์นอกจากเป็นอาจารย์แล้วยังเป็นเสาหลัก ไพ่ตายของจักรวรรดิอีกด้วย จิคนีฟรู้ว่าสิ่งที่ฟลูเดอร์ต้องการคือการค้นคว้าเรื่องเวทมนต์ แต่ที่ฟลูเดอร์แสดงออกมาคราวนี้ผิดปกติ จากการที่เห็นกระรอกสามารถสร้าง death knight ได้ทั้งๆที่ฟลูเดอร์ยังบังคับไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ทำไมไม่พูดอะไร ปกติน่าจะต้องขอร้องกระรอกเพื่อให้สอนเวทมนต์ มันน่าจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า จิคนีฟคิดไม่ออกว่ากระรอกจะเอาฟลูเดอร์ไปเป็นบริวารทำไมต่อให้ฟลูเดอร์เป็น ไพ่ตายของจักรวรรดิแต่ถ้าเทียบกับลูกน้องคนอื่นของกระรอกแล้วฟลูเดอร์ไม่มี ค่าอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าเอาฟลูเดอร์ไป กำลังของกองทัพจะลดลงอย่างมากเหมือนการทำลายเสาหลักของจักรวรรดิ
จิดนีฟคิดว่า นี่เป็นเป้าหมายของกระรอกหรือเปล่า หรือว่าฟลูเดอร์รู้จักกับกระรอกมาก่อน สักพักจิคนีฟเริ่มคิดโดยเอาข้อมูลทุกอย่างมารวมกัน เพราะฟลูเดอร์มีส่วนในทุกๆแผนการของจักรวรรดิ ทุกขั้นตอน พอคิดดีๆเอาทุกอย่างมารวมกัน จิคนีฟจึงสรุปได้ว่า ฟลูเดอร์ทรยศตัวเองแล้ว


volumn9Chaptor 1Part5 ส่วนท้าย
จิคนีฟบอกคนอื่นว่า ฟลูเดอร์เป็นคนหักหลังจักรวรรดิ คนอื่นยังไม่เชื่อแต่จิคนีฟก็ย้ำว่าเป็นอย่างนั้น ถึงแม้ว่าจิคนีฟเองก็ไม่อยากเชื่อก็ตาม จิคนีฟต้องการให้ฟลูเดอร์ย้ายไปในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับจักรวรรดิแล้วพัก แต่ในบ้านให้คล้ายโดนกักขังไว้
แล้วก็ให้หาคนมาแทนตำแหน่งฟลูเดอร์ ตอนแรกลูกศิษย์ฟลูเดอร์โลภอยากได้ตำแหน่งแต่เสนอชื่อคนอื่นไปเพราะคิดว่าถ้า เทียบกันแล้วไปโดดหน้าผาลงมายังมีโอกาสรอดมากกว่าไปสู้เรื่องเวทมนต์กับ กระรอก พอจิคนีฟเห็นยังงั้นก็รู้ว่าลูกศิษย์ฟลูเดอร์คนนี้ยอมแพ้แต่แรกเพราะกลัว กระรอก พอถามไปว่า มรึงไม่ได้เก่งสุดในหมู่ลูกศิษย์รึ ลูกศิษย์ฟลูเดอร์บอกว่า เปล่า ไม่ใช่ มีคนอื่นเยอะแยะลองเลือกจากพวกนั้นละกัน
จิคนีฟต้องการคนที่มีใจสู้แต่คนที่มาเจอกระรอกล้วนถอดใจหมดเลยคิดว่าอาจต้องหาคนจากคนที่ยังไม่เคยเจอกระรอก
จิคนีฟบอกว่าต้องหาข้อมูลมาให้มากที่สุดเพื่อรับมือกับกระรอกแต่ระหว่างนั้น ยังไงก็ต้องแกล้งช่วยเหลือกระรอกไปก่อนทำตัวเป็นหมาเชื่องเพื่อสร้างความ สัมพันธ์ที่ดีก่อน มีคนถามว่าต้องยอมเชื่อฟังอีกนานแค่ไหน จิคนีฟมองรอบๆเพื่อเช็คคนว่าเชื่อใจได้ไหมแล้วบอกว่า เรา เราเนี่ยหมายถึง the empire, the kingdom, the Theocracy, the republic , the holy kingdom และประเทศอื่นๆ (ผมไม่รู้จะแปลยังไงขอทับศัพท์นะครับ)จะต้องรวมกันเป็นพันธมิตร เราจะสร้างกลุ่มพันธมิตรเพื่อโค่นกระรอก เพราะประเทศใดประเทศหนึ่งเอากระรอกไม่ลงแน่ๆ
แต่ก็มีคนถามว่า ถ้าจะสู้ทำไมไปร่วมเป็นพันธมิตรกับกระรอก จิคนีฟบอกว่าเป็นขั้นแรกในการสร้างกลุ่มพันธมิตรเพื่อล้มกระรอก เพราะนาซาริคอยู่ข้าง e-rantel ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง3ประเทศ ถ้ากระรอกตั้งประเทศตรงนี้ต้องเป็นศัตรูกับ3ประเทศ (จักรวรรดิบาฮารูท=the empire , อาณาจักรรีเอสไทน์=the kingdom, สาธารณรัฐสเลน=the theocracy) แล้วกระรอกเป็นอันเดด ประชาชนไม่ยอมรับแน่ อาณาจักรเนี่ยไม่happyแน่ๆที่จะมอบดินแดนให้ ส่วนทางสเลนคงไม่ทำอะไร
คนอื่นถามว่าถ้าเราช่วยกระรอกตั้งประเทศ คนอื่นต้องมองว่าจักรวรรดิร่วมมือกับกระรอกแน่ ประเทศอื่นที่ตั้งกลุ่มพันธมิตรคงไม่รวมจักรวรรดิ แล้วถ้าล้มกระรอกได้ เราไม่เป็นเป้าหมายต่อไปรึ จิคนีฟเลยบอกว่าเราจะดำเนินการเบื้องหลังโดยเบื้องหน้าทำเป็นช่วยเหลือกระ รอก ถึงยากแต่ต้องทำแบบนั้น เราต้องโชว์พลังของนาซาริคอาจจะเป็นที่สนามรบให้ประเทศอื่นรู้ว่านาซาริ คแข็งแกร่งจะได้ตั้งกลุ่มพันธมิตรมาล้มกระรอก ยังไงขั้นแรกสุดเราต้องทำให้จักรวรรดิปลอดภัยก่อนดำเนินการแผนเบื้องหลัง
เบื้องหน้าทำเป็นว่าช่วยกระรอกตั้งประเทศแต่เบื้องหลังลอบตั้งกลุ่มพันธมิตรมาโค่นกระรอกแล้วหาคนที่สามารถล้มกระรอกได้
ลูกศิษย์ฟลูเดอร์ถามว่า มันมีคนแบบนั้นด้วยรึ? จิคนีฟคิดว่ากระรอกแข็งแกร่งมากต่อให้มังกรก็ยังสู้ไม่ได้ แต่ก็ตอบไปว่ามี โดยบอกว่าดูที่ห้องบัลลังก์นั้น ต้องทำให้คนในนั้นทรยศกระรอก เราต้องเตรียมการทุกอย่างเพื่อดึงคนในให้ทรยศกระรอก เพราะกระรอกเป็นคนเผด็จการ ต้องมีคนอยากทรยศ แล้วย้ำว่านี่ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศแล้วแต่เป็นเรื่องความ อยู่รอดของมนุษยชาต

อ่านแล้วคอมเม้นคุยกันก็ได้นะผมจะได้รู้ว่าคนชอบแบบไหนมีคนอ่านแบบนี้เยอะมั้ยแบบไหนดีกว่า

10 ความคิดเห็น:

  1. โว้ววว ปัญหาระดับมนุษย์ชาติ

    ตอบลบ
  2. ฮาดีครับ
    จะให้คนในทรยศนี่ ยกโลกให้ยังไม่ทำเลย 😂😂

    ตอบลบ
  3. สนุกอีกแบบคับชอบ ๆ

    ตอบลบ
  4. ตะให้คนในนาซาริกทรยศกระรอก...เออ..อยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องฝังกลบอาณาจักรตัวเองซะงั้น แค่พวกผู้พิทักษ์รู้คงหัวร้อนพังเมืองทิ้งเอาแน่ๆ

    ตอบลบ
  5. ชอบสนุกมาก อ่านเพลินดีขอบคุณมากครับ

    ตอบลบ
  6. ขำท้องแข็ง ฉากที่กระรอกโยนขี้ให้เดมิลุก กับ อัลเบโด้

    ตอบลบ
  7. ชอบ อ่านสนุกดีขอบคุณมากเลยครับ

    ตอบลบ
  8. ชอบมากเข้าใจง่ายด้วย

    ตอบลบ
  9. ขอบคุณมากครับ สำนวนที่ใช้อ่านสนุกมาก

    ตอนนี้อ่านแล้วรู้สึกแบบ แต่ละนางในนาซาริกนี่คือโคตรสวยมากแน่ๆ (แม้แต่มาเร่ยังสวย ผ่าง!!!)

    ตอบลบ