วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2560

Vol 9 Intermission

Overlord Vol.9 Intermission

Intermission
พักเดี๋ยวนึงนะ (ผู้แปล- เอามาจากอิ๊กคิวซัง หุหุ)


ในห้องซึ่งแม้ว่าจะเล็ก แต่ก็หรูหราอย่างมาก และมีสาวน้อยหน้าใสนั่งอยู่บนบัลลังก์ เธอมีเสียงที่ไพเราะ ไร้เดียงสา และน่ารักอย่างมาก สมกับวัยของเธอ

"
เอาล่ะ, ข้าไว้วางใจท่าน ในเรื่องนั้น!"

"
ขอรับ ฝ่าบาท!"

อัศวินผู้ซึ่งคุกเข่าอยู่นั้น ก็ลุกขึ้นยืนและออกไปจากห้องอย่างองอาจ

หลังจากประตูปิดลงได้สักพักหนึ่ง สาวน้อยเอ่ยถามข้ารับใช้ที่อยู่ข้างเธอว่า

"
ตอนนี้ เรียบร้อยหมดหรือยัง?"

"
ขอรับ เขาเป็นคนสุดท้ายแล้ว ดังนั้นสบายพระทัยได้"

หลังจากได้ยินคำพูดไร้อารมณ์ของรัฐมนตรีแล้ว ใบหน้าที่ไร้เดียงสาของสาวน้อยพลันสลายไป

อธิบายอาการของเธอได้อย่างเดียวว่า เหนื่อยสุดจะทน แววตาตาของเธอมัวหมอง และหรี่ตาลง ปากของเธอบู้บี้เป็นรูปตัว ^ และไหล่ก็ห่อเหี่ยว

"
เหนื่อยจริง ๆ"

ลักษณะท่าทาง ความเห็น และลักษณะการพูดของเธอเหมือนกับคนอายุ 40 ปี แต่เสียงก็ยังน่ารักแบบสาวน้อยอ่อนวัยอยู่ ซึ่งตัดกับลักษณะรูปร่างที่เธอแสดงออกมา

"You worked hard"
"
ท่านทุ่มเททำงานอย่างมากแล้ว"

"
ใช่ มันช่างเหน็ดเหนื่อย ตอนนี้ข้าจะหยุดแสดงตัวแบบนี้ได้ไหม?" สาวน้อยดึงชายกระโปรงของเธอขึ้นมา พร้อมกับพูดว่า "ฉันอึดอัดมากที่ต้องใส่กระโปรงเผยสัดส่วนแบบนี้อีก"

"
กระหม่อม บอกฝ่าบาทหลายครั้งแล้ว"

The girl is the queen of the dragonic kingdom, 'Darkscale Dragon Lord' Draudiron Oriukurus
สาวน้อยคือองค์ราชินีของราชอาณาจักรดรากอนิค (dragonic kingdom) ฉายา ราชินีมังกรเกล็ดนิล ('Darkscale Dragon Lord') นามว่า ดราอุดิรอน โอริอุคุรุส (Draudiron Oriukurus) (ドラウディロン・オーリウクルス)

ถึงแม้ว่า เธอจะถูกเรียกว่าราชินีมังกร (dragon lord) ความสามารถในการต่อสู้ของเธอถือว่าอ่อนแอมาก แต่เทวธิปไตยสเลน (Slane Theocracy) ก็ยังเรียกเธอเช่นนั้น และจัดเธออยู่ในกลุ่มนี้ด้วยที่มีพลังระดับราชามังกร เพราะความสามารถทางสายเลือดที่สืบทอดมา ซึ่งก็คือ มนตราทมิฬ (wild magic)

"
ตราบใดที่ท่านปรากฏในร่างนี้ ก็สามารถดึงดูดคนอื่นให้มีความต้องการที่จะปกป้องท่าน พวกเขาจะทุ่มกำลังสุดความสามารถ"

"
มนุษย์ทุกคนเป็นพวกโลลิค่อนหรือ? ข้าจะรู้สึกสบายใจกว่านี้ถ้าบางส่วนของร่างกายข้าใหญ่กว่านี้" (ผู้แปล- ถ้าเป็นโลลิอกตูมหล่ะก็เพอร์เฟ็ค ร่างอื่นอกตูมแต่คงมะใช่โลลิ ฮา อันนี้มโน)

เธอใช้มือทั้งสองข้างจับไปที่หน้าอกของเธอ (ผู้แปล- โอ ติดต่อแชลเทียด่วน แต่คงไม่ต้องหล่ะมั้ง เพราะเธอมีหลายร่าง)

"
ขอรับ ถ้ามันเป็นรูปร่างแปลง..."

"
อย่าพูดว่านั่นเป็นร่างแปลงนะ! นั่นหน่ะเป็นร่างจริงของข้านะ!

"
ขอประทานอภัย ในความหยาบคายของกระหม่อม ฝ่าบาท"

"
ข้าไม่เห็นรู้สึกถึงความสำนึกผิดของเจ้าเลย"

"There is no such thing"
"
นั่นไม่ได้เป็นเช่นนั้น"

จ้องมองไปที่ข้ารับใช้ที่มีรอยยิ้มเรียบเฉยสักพักหนึ่ง ราชินีก็หันหน้าไปทางอื่นด้วยความไม่พอใจ

"
กลับมาที่หัวข้อ รูปร่างแบบนั้นอาจจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้ชายแต่ไม่ใช่สำหรับผู้หญิง แทนที่ด้วยรูปร่างแบบนี้จะเป็นที่ยินดีกับทุกผู้คนทุกเพศทุกวัย ดังนั้น ถ้าท่านต้องการที่จะเปลี่ยนกลับไปที่รูปร่างแบบนั้น ท่านจะต้องรอให้ประเทศมีความมั่นคงอีกครั้ง หรือท่านมีแผนการอื่นที่จะเสนอ?"

"
อย่าพูดถึงว่านั่นเป็นรูปร่างแปลง...."

"
แต่ ถ้าสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้อยู่ ไม่ว่าจะใช้รูปร่างแบบไหนก็ไม่สำคัญอีกต่อไป"

ความเงียบที่แสนหนักอึ้งปกคลุมอยู่สักพัก ในขณะที่พวกเขาเปลี่ยนหัวข้อ

"
การรุกรานของพวกมนุษย์สัตว์ (beastman) ในเวลานี้ต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง"

"
ขอรับ ดูเหมือนว่าแรงจูงใจของกองกำลังในครั้งนี้ มาเพื่อที่จะทำลายประเทศนี้ และสร้างให้เป็นฟาร์มปศุสัตว์"

ที่นั่นคืออาณาจักรมนุษย์สัตว์ ใกล้กับราชอาณาจักดรากอนิค และมนุษย์สัตว์ก็เป็นพวกอมนุษย์ (demi humans) คล้ายกันกับพวกสัตว์กินเนื้อต่าง ๆ เช่น เสือ สิงโต แต่เดินสองขา แค่มองที่ใบหน้าของพวกเขา ก็บอกได้แล้วว่าพวกเขาเป็นพวกกินเนื้อมนุษย์ (carnivorous man eaters)

เผ่าพันธุ์กินเนื้อมนุษย์ที่พบบ่อย สามในหกประเทศที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศหลัก ๆ มองมนุษย์เป็นอาหาร ที่่นั่นมีแม้กระทั่งอาหารเลิศหรู โดยใช้ทารกในครรภ์อายุ 6 เดือน ดังนั้น พวกมนุษย์สัตว์ปฏิบัติกับราชอาณาจักรนี้เป็นแค่แหล่งล่า เก็บเกี่ยวอาหาร ไม่สนใจแม้กระทั่งการยึดครองราชอาณาจักร ต้องการเพียงแค่เพิ่มปริมาณอาหาร ดังนั้นก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้พยายามรุกรานราชอาณาจักรอย่างเต็มที่ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่ทราบสาเหตุ ในครั้งนี้พวกเขาเริ่มรุกรานเต็มกำลังเต็มรูปแบบ กวาดล้างไปได้ถึง 3 เมือง จัดงานเลี้ยงฉลองแห่งความสยดสยอง เหตุนั้นทำให้ทุกคนสะอิดสะเอียนรังเกียจ รวมถึงองค์ราชินี

ต่อสู้กับศรัตรูที่ไม่มีทางเจรจาได้ มนุษย์มีแต่จะต้องรวมตัวกันเพื่อต้านทานจนกว่าจะจบสิ้น แต่ความแตกต่างระหว่างมนุษย์และมนุษย์สัตว์มีมากเกินไป ถ้าทั้งมนุษย์และมนุษย์สัตว์เป็นสายพันธุ์เดียวกัน หากเป็นเช่นนั้น มนุษย์สัตว์จะแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ถึงสิบเท่า โดยใช้ระดับวัดของนักผจญภัย ถ้ามนุษย์อยู่ที่ระดับ 3 ดังนั้น มนุษย์สัตว์ก็จะอยู่ที่ระดับ 30 แต่มันอาจจะเป็นเพราะความสมดุล (But it may be due to them being well balanced) การพบเจอมนุษย์สัตว์ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษนั้นหายาก ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่โล่งอกสำหรับมนุษย์

"
ถึงแม้พวกเราจะขัดขวางศรัตรูด้วยกลุ่มนักผจญภัยที่นำโดยระดับอดามันไทท์ แต่ศรัตรูมีจำนวนมากเกินไป พวกเราไม่สามารถหยุดการโจมตีจากหลาย ๆ เผ่าที่กระจายอยู่รายรอบพวกเราได้ ดังนั้นท้ายที่สุด พวกเราต้องรวมพลเมืองทุกคนไปที่เมืองหลวง รอจนกว่าเสบียงอาหารของศรัตรูจะหมด แต่เสบียงอาหารของเราอาจจะหมดก่อน"

"
น่าปวดหัวอะไรเช่นนี้ อนาคตช่างมืดมนยิ่งนัก"

"
กระหม่อมมีข้อเสนอว่าควรกำจัดแม่ทัพของศรัตรู จะเป็นอย่างไรเมื่อพวกเราเลือกหน่วยพิเศษไปโจมตีพวกมัน? แม้ว่ามันจะเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่สำคัญนัก นั่นก็อาจจะทำให้พวกมันโกรธ แต่ก็ยังดีกว่าที่ไม่ได้ทำอะไรเลย"

"
ถ้าเป็นเช่นนั้น คนที่จะเป็นผู้นำครั้งนี้คงเป็นเขา?"

"
ขอรับ เขานั่นแหละเหมาะสม"

พวกเขาทั้งสองหมายถึงบุคคลคนหนึ่ง ภายในราชอาณาจักแห่งนี้มีนักผจญภัยระดับอดามันไทท์เพียงกลุ่มเดียว คือกลุ่มน้ำตาคริสตัล ("Crystal Tear") มีบุคคลหนึ่งที่มีฉายาว่า เร็วแสงพิฆาต ("Fierce Flash") นามว่า เซียรา-บราท (Cerabrate) ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในระดับคลาสเทพศักดิ์สิทธิ์ ('Holy Lord') ผู้ซึ่งมีชื่อเสียงในการใช้เทคนิคดาบประกายแสง (Shining Sword technique) (ผู้แปล- Cerabrate เซียรา-บราท (เสียงภาษาเยอรมัน) แปลว่า รำพึง นึก ตรึกตรอง ขบคิด)


"
บุคคลนั้นเป็นพวกโลลิค่อนแน่นอน (ผู้แปล- lolicon พวกคนแก่รักเด็ก) ตอนที่ข้าคุยกับเขา เขาจ้องมองข้าด้วยสายตาหื่นกระหาย ถ้าเขามีความสุขที่ได้จ้องมองบางสิ่งที่เรียบแบน เขาควรที่จะไปจ้องมองกำแพงดีกว่า" (ผู้แปล- ฮา)


"It is just a fetish, also, he really is a lolicon."
"
มันเป็นเพียงแค่ความคลั่งไคล้ นอกจากนี้เขาก็เป็นโลลิค่อนจริง ๆ" (ผู้แปล- ขอบคุณท่าน berserk02 แก้ไขแล้วครับ)

ใบหน้าขององค์ราชินีเริ่มนิ่วคิ้วขมวด

"
ข้าหวังจริง ๆ ว่าเจ้าจะไม่พูดว่า.... ข้าหวังจริง ๆ ว่าประเทศของเรามีนักผจญภัยระดับอดามันไทท์มากมายเป็นเรื่องปกติ"

"
ท่านพูดเรื่องอะไรกัน? ถ้าท่านแสดงท่าทางน่ารัก บ้องแบ๊ว ไร้เดียงสา สักเล็กน้อย เขาก็จะเสี่ยงชีวิตเข้าต่อสู้ เขาไม่เหมาะสมสำหรับเราในตอนนี้หรือ?"

"But when the time comes....I must satisfy his desires....Oi! Don't look at me like a roasted pig sent for tomorrow's feast!"
"
แต่ถ้าเวลานั้นมาถึง.... ข้าก็จำต้องสนองความปราถนาของเขา.... โอ้ย! อย่ามองฉันเหมือนฉันเป็นหมูคั่วสำหรับงานฉลองของวันพรุ่งนี้!" (ผู้แปล- ขอบคุณท่าน OHMU มากครับ แก้ไขแล้วครับ) (ผู้แปล- นึกแล้วตะเตือนไต)

She then popped her veins at the minister signing.
จากนั้นเส้นเลือดเธอก็ปูดขึ้น ขณะที่รัฐมนตรีก็ถอนหายใจ (ผู้แปล- ขอบคุณท่าน OHMU มากครับ แก้ไขแล้วครับ) (เส้นเลือดปูด หมายถีงเธอโกรธ หงุดหงิด)

"It is only at this degree, your highness. It is a lot better than the citizens being eaten literally, so please bear with it."
"
มันเพียงแค่ระดับนี้เท่านั้น ฝ่าบาท มันดีกว่ามากมายที่พลเมืองจะถูกกิน ดังนั้นทรงโปรดอดทนกับมัน"

องค์ราชินีไม่สามารถหาเหตุผลมาหักล้างเขาได้

"If I had more money, I would have hired the whole "Optics" group, speaking of which what the hell is Slane Theocracy doing?"
"
ถ้าข้ามีเงินมากมาย ข้าจะได้จ้างกลุ่มอ็อปติคทั้งหมด จะว่าไปแล้ว พวกสเลนมันทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย?" (ผู้แปล- ไม่เข้าใจ อ็อปติคเนี่ยหมายถึงกลุ่มไหนเนี่ย) (ผู้แปล- ขอบคุณท่าน OHMU มากครับ แก้ไขแล้วครับ)

"Well, I am not sure."
"
อ่า-คือว่า กระหม่อมก็ไม่แน่ใจ" (ผู้แปล- ขอบคุณท่าน OHMU มากครับ แก้ไขแล้วครับ)

"Didn't we donated to them a huge sum of money every year? Normally, they would have rushed here already. Even if it is not Black Scripture, why are they not sending Sunlight Scripture here?"
"
พวกเราไม่ได้บริจาคให้พวกเขามากมายทุกปีหรือ? ปกติแล้ว พวกเขาจะต้องรีบมาที่นี่แล้ว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่กลุ่มคัมภีร์ดำ แล้วทำไมพวกเขาไม่ส่งกลุ่มคัมภีร์สุริยันฉายมาที่นี่ล่ะ?" (ผู้แปล- กลุ่มสุริยันฉายเป็นหนูทดลองอยู่ในนาซาริก)

เทวธิปไตยสเลนคอยช่วยเหลือสนับสนุนราชอาณาจักรดรากอนิคอยู่ ซึ่งไม่ได้เผยแพร่ออกไป เพราะเธอให้ตัวเธอเองเป็นสิ่งสูงสุดของประเทศนี้

"
วางใจอาศัยให้ประเทศอื่นปกป้อง...ซึ่งก่อให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ในที่สุด มันช่างตกต่ำนัก"

"
เจ้าคิดว่าข้าต้องการที่จะวางใจพึ่งพาประเทศอื่นหรือไง? มันเพราะว่าข้าไม่มีทางเลือก ค่าใช้จ่ายทางทหารก็เป็นภาระหนักมากอยู่แล้ว ถ้าเพิ่มค่าใช้จ่ายเข้าไปอีก ประเทศเราก็จะล้มละลาย! นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าเราจะใช้เงินไปจ้างมานั้น มันก็ไม่ได้เหมือนกับว่ากองทัพจะแข็งแกร่งขี้นได้ในทันที ซึ่งมันต้องใช้เวลา"

ประเทศมีงบประมาณใช้จ่ายอย่างมากในการต่อสู้กับมนุษย์สัตว์เป็นประจำทุกปี เป็นเวลานานมาแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังคงเป็นเช่นนี้ แต่มันสามารถบอกได้ว่าการใช้จ่ายนั้นเพื่อจัดการควบคุมและชะลอสถานการณ์ใน ขณะนี้

"
เทวธิปไตยสเลนได้ทอดทิ้งพวกเรา พวกเราควรหันไปขอความช่วยเหลือจากจักวรรดิ์ ว่าอย่างไรดี? ถ้าประเทศของเราถูกทำลาย ไม่ใช่จักรวรรดิ์หรือที่เป็นรายต่อไป?"

"
ที่นั่นยังมีที่ราบคาทเซอะอยู่ (Katze Plains) ดังนั้นมันจะยังไม่ใช่จักวรรดิ์ในทันที ถ้าพวกเราดูตามเส้นทางรอบทะเลสาบแล้ว มันก็จะเป็นเทวธิปไตยสเลนที่จะเป็นรายต่อไป" (ผู้แปล- Katze Plains ที่ราบแมวเหมียว ภาษาเยอรมัน)

"
ดังนั้น แม้ว่ามนุษย์สัตว์ไม่มีความกล้าหาญพอที่จะไปในพื้นที่เกิดของผู้ไม่ตาย" (undead)

They also discarded the idea of the dragon rider tribe of being invaded on the route.
พวกเขาจึงทิ้งความคิดที่ว่าเผ่าขับขี่มังกรจะถูกรุกราน ซึ่งดูจากเส้นทางนี้

"
มันก็เกี่ยวข้องกับความกล้าหาญด้วย แต่ที่เกี่ยวข้องมากกว่านั้นคือ สำหรับพวกมันแล้ว เหล่าผู้ไม่ตายนั้นกินไม่ได้ นอกจากนี้ ที่นั่นก็ไม่มีประโยชน์อะไรในการครอบครองพื้นที่นั้น มีเพียงผู้ไม่ตายเท่านั้นที่มีความสุข มีความยินดีที่ได้ปกครองพื้นที่นั้น และจักรวรรดิ์ก็ยังไม่ว่างอย่างมาก สงครามประจำปีของพวกเขากำลังใกล้เข้ามา"

"
ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มช้ามากปีนี้"

"
ใช่แล้ว มันช้ามากกว่าครึ่งปีแล้ว และมันดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะการประกาศบางอย่างของผู้ร่ายมนตรา (magic caste) ต้องการให้ข้าไปตรวจสอบไหม?"

"
สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศอื่น ข้ามีความกังวลมากกับสิ่งที่ต้องทำเพื่อป้องกันประเทศของเรา!"

"
ดีแล้ว ที่ฝ่าบาทเริ่มหัวข้อก่อน....เป็นอย่างไรหากใช้มนตราของท่าน?"

องค์ราชินีสั่นศรีษะ จากคำแนะนำของรัฐมนตรี ดังนั้นความรู้สึกประทับใจของเขากับมนตราทมิฬคือส่วนที่ดีเท่านั้น องค์ราชินีได้แค่แค่นยิ้ม (So his impression on wild magic is only so far. The queen can only smile wryly.)

"
มนตราทมิฬ... จะใช้งานได้เมื่อร่างกายของข้าไหลเวียนไปด้วยหนึงในแปดส่วนของเลือดมังกร แต่ที่เลวร้ายที่สุดมันจะล่าช้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะใช้มันก็ต่อเมื่อเป็นทางเลือกสุดท้ายเท่านั้น"

"
ทางเลือกสุดท้าย....กระหม่อมหวังว่าวันเช่นนั้นจะไม่มาถึง แต่กระหม่อมจะพยายามติดต่อกองกำลังจากเทวธิปไตยสเลนอีกครั้ง"

"
ได้โปรดทำตามนั้น"

รัฐมนตรีมองด้วยสายตาเรียบเฉย จากการตอบรับที่เหมือนกับเด็กน่ารัก บ้องแบ๊ว ไร้เดียงสาขององค์ราชินี

"
ฝ่าบาท ถ้าพระองค์ทรงมีเรี่ยวแรงเหลืออยู่ ได้โปรดเขียนจดหมายให้กำลังใจเหล่าแม่ทัพที่อยู่แนวหน้าสามสิบฉบับ แน่นอนว่าควรใช้ลายมือของเด็กเขียน"

"
นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาให้ข้า! ข้าไม่สามารถเขียนสำนวนแบบนั้นได้ ในตอนที่ข้ายังมีสติดีอยู่" (ผู้แปล- คิดว่าน่าจะเป็นข้ออ้างดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะดูเหมือนจะโดนห้ามดื่ม)

"
เข้าใจแล้วขอรับ ท่านสามารถดื่มจนเมาได้ตามที่ท่านต้องการ แต่อย่าให้มากเกินไป กระหม่อมปารถนาให้ท่านทำให้เสร็จภายในวันนี้"

หลังจากรัฐมนตรีออกไปสักพักหนึ่ง องค์ราชินีจึงจ้องมองไปที่มือของเธอเอง

"
มนตราทมิฬ...."

มนตราทมิฬแตกต่างจากมนตราทั่วไป มันต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน และในการใช้งานต้องใช้วิญญาณในการร่ายมนต์ ซึ่งมันต้องเสียสละสังเวยผู้คนจำนวนมาก ทำลายการเชื่อมต่อภายในวิญญาณเพื่อที่จะร่ายมนต์ที่แข็งแกร่ง หลังจากได้ฟังจากปู่ทวดของเธอ (great grandfather dragonlord คือ ราชามังกรเจิดจ้า Brightness Dragon Lord) เมื่อร่ายมนตรานี้ ความแข็งแกร่งเทียบได้กับพลังโจมตีที่ระเบิดออกมาสูงสุดของราชามังกรทองคำขาว (Platinum Dragon Lord) แต่สำหรับบุคคลที่อ่อนแอห่างชั้นอย่างมากกับระดับราชามังกรเช่นเธอ การเสียสละสังเวยสำหรับการร่ายมนตรานี้มากมายมหาศาล คาดว่าคงต้องมีการสังเวยนับล้าน

เธอกุมใบหน้าของเธอ ไม่ว่าเรื่องราวหนทางที่เลือกจะไปทางไหนล้วนมีจุดหมายเดียวเท่านั้นคือความ พินาศดั่งขุมนรก ก่อให้เกิดอาการสั่นเทาไปทั้งร่างของเธอจากลางสังหรณ์นี้


----------------------------------------------------------------------------------------------------


(
ผู้แปล- (ความคิดเห็นผู้แปล) ข้อมูลจากวิกิยังไม่สามารถเชื่อได้ทั้งหมด เพราะมีหลายส่วนที่ไม่ได้กล่าวไว้ในนิยาย และหลายส่วนเป็นข้อมูลจากนิยายฉบับเว็ป และจากเรื่องพิเศษ เรื่องสั้น จากทวิสเตอร์ เว็ปบล็องของผู้แต่งนิยาย มารุยามะ คุงาเนะ ข้อมูลไหนยังไม่ได้กล่าวไว้ในนิยาย ให้ไว้เป็นแนวทาง ข้อสังเกตุ)


ปล. (ผู้แปล- (ความคิดเห็นผู้แปล) ก็มันไม่ใช่เกม เลยแปลเป็นผู้ร่ายมนตรา แต่ผมก็ชอบคำแปลของท่าน sinwor นะที่แปลเล่ม1 คนแรก แปล magic caste ว่า ผู้ขับขานมนตรา หากแปลเป็นนักเวทย์ เมจย์ วิซาร์ด มันฟังเป็นภาษาเกมไป คนแปลเป็นภาษาอังกฤษ เขายังไม่ใช้คำในภาษาเกมเลย อย่าง mage wizard ยังใช้ magic caste เลย เออคนแต่งก็ใช้คำนี้นี่เนอะ)

(
ผู้แปล- ชอบแปลไทยอ่ะ จะทำไม ฮึ แล้วผมก็ชอบคำ ผู้ไม่ตาย (undead) ที่ท่าน OHMU แปลไว้นะ)

(
ผู้แปล- lolicons โลลิค่อนคือพวกคนแก่รักเด็กหรือคนที่มีรูปร่างเป็นเด็ก)

(
ผู้แปล- (demi humans) (ความคิดเห็นผู้แปล) ซึงปกติทั่วไปเห็นเขาแปลเป็น กึ่งมนุษย์ กัน ก็เลยจะลองหาคำอื่นดูบ้าง ตอนแรกจะแปลว่าอสุรกาย หรือ อมนุษย์ดี แต่คิดทบทวนไปมา คำว่า อมนุษย์จะครอบคลุมกว่า ทั้งพวกครึ่งสัตว์ และครึ่งปีศาจ ครึ่งเดมอน หากเป็นอสุรกายจะได้แค่ ครึ่งปีศาจ ครึ่งเดมอน เลยใช้ อมนุษย์ ดีกว่า

demi
ก็หมายถึงกึ่ง ครึ่งหนึ่ง ส่วนหนึ่ง แต่ไม่เกินครึ่ง น้อยกว่าครึ่ง ทั่วไปที่แปลตรงตัวก็จะเป็น demi-human กึ่งมนุษย์, demi-god กึ่งเทพ, demi-demon กึ่งปีศาจ)

(
ผู้แปล- Theocracy = เทวาธิปไตย - (ความคิดเห็นผู้แปล) คือระบอบการปกครองที่มีพระเจ้าหรือเทพเป็นประมุข - เปลี่ยนเทวธิปไตยสเลนแทนนะครับ ถึงจะไม่ค่อยชอบคำนี้เท่าไหร่ แต่ก็ต้องใข้เพื่อความถูกต้อง)

(
ผู้แปล- (ความคิดเห็นผู้แปล) Kingdom = ราชอาณาจักร = มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และมีสภาขุนนางคอยออกความเห็นและตัดสินใจ กษัตริย์ไม่สามารถตัดสินใจเองได้ทั้งหมด)

(
ผู้แปล- (ความคิดเห็นผู้แปล) Empire = จักรวรรดิ์ = มีพระมหากษัตริย์หรือผู้นำสูงสุดปกครอง มีอำนาจเด็ดขาด ตัดสินใจเองทั้งหมด)

(
ผู้แปล- (ความคิดเห็นผู้แปล) ขอแก้ไข 'Darkscale Dragon Lord' Draudiron Oriukurus เป็นหลานของ Brightness Dragon Lord นะครับ ที่แปลก่อนหน้านี้ว่าเป็นคนเดียวกัน เป็นความเข้าใจผิด ขออภัยด้วยครับ)


(
ผู้แปล- New World

(
ผู้แปล- Six Great Gods

(
ผู้แปล- Eight Greed Kings

(
ผู้แปล- Dragon Lords

(
ผู้แปล- Wild Magic

Wild Magic
ไม่รู้จะแปลเป็นภาษาไทยอย่างไร เป็นเวทย์โจมตีในวงกว้าง และรุนแรงมาก โหดมาก ๆ ตามคำก็ เวทย์มนต์ป่า มนตราป่า มนตราดิบเถื่อน มนตราวงกว้าง ก็ดูจากลักษณะมนตรา ก็เลยแปลเป็นมนตราทมิฬ น่าจะตรงตามลักษณะของมนตรา

คนที่ใช้ Wild Magic ได้ Users of Wild Magic
Platinum Dragon Lord
Vampiric Dragon Lord
Elder Coffin Dragon Lord
Catastrophe Dragon Lord
Heavenly Dragon Lord
Deep Darkness Dragon Lord
Brightness Dragon Lord
Draudillon Oriculus
Wild Magic (
ワイルド・マジック, Wairudo Majikku) is the primal magic that existed in the New World long before the introduction of Rank Magic.
มนตราทมิฬ เป็นมนต์ยุคแรก ๆ ที่มีอยู่ในโลกใหม่นานมาแล้ว ก่อนที่จะเกิดระดับของมนตรา (มี 10 ระดับ)

Background
ปูมหลัง
Six hundred years ago, Wild Magic was the dominant magical art in the New World. The true masters of Wild Magic were the Dragon Lords. However, Wild Magic fell into disuse when the players from YGGDRASIL, who introduced to the inhabitants of the New World the power of the more effective Rank Magic. Since then Wild Magic has been in decline, though a few practitioners of the art still exists.
600
ปีที่แล้ว มนตราทมิฬเป็นศาสตร์ที่มีบทบาทสำคัญในโลกใหม่ ต้นตำหรับของมนตราทมิฬคือบรรดาราชามังกร อย่างไรก็ตาม มนตราทมิฬได้เลิกใช้ เมื่อมีผู้เล่นจากยิกดราซิลมาแนะนำคนในโลกใหม่ในพลังที่มีประสิทธิภาพของ ระดับมนตรา ตั้งแต่นั้นมามนตราทมิฬก็ถูกปฏิเสธ มีเพียงไม่กี่คนที่ยังใช้ศาสตร์นี้ได้

Mechanics
กลศาสตร์
Wild Magic is different from typical magic, instead of mana it seems that it requires the caster to spend and use of souls in order for a spell to be cast. The spell casting through Wild Magic is said to be astronomical, requiring the sacrifice of people and destroying the link in user’s soul to cast a strong magic.
มนตราทมิฬแตกต่างจากมนตราทั่วไป แทนที่จะใช้มานามันดูเหมือนต้องการผู้ร่ายต้องใช้วิญญาณในการร่าย การร่ายที่เกิดจากมนตราทมิฬนั้นเรียกได้ว่ามหาศาล มันต้องการการสังเวยของผู้คนและทำลายจุดเชื่อมต่อภายในวิญญาณ เพื่อร่ายมนตราที่แข็งแกร่ง
Dragon Lords can cast Wild Magic with ease, but it seems that due to the intrusions from YGGDRASIL, this has been becoming more and more difficult to cast. One way to access Wild Magic is to possess the blood of a Dragon Lord. But even if a person does possess a trace of a Dragon Lord’s lineage, for a person far weaker than the former the sacrifice for casting would be huge, estimating to be around millions.
ราชามังกรสามารถร่ายมนตราทมิฬได้โดยง่าย แต่มันดูเหมือนมันมีการแทรกแซงจากยิกดราซิล ที่ทำให้มันกลายเป็นยากและยากมากในการร่าย ทางเดียวที่จะครอบครองมนตราทมิฬคือมีสายเลือดของราชามังกร แต่ถึงแม้ว่าจะมีสายเลือดและสืบเชื้อสายมาจากราชามังกร สำหรับคนที่อ่อนแอกว่าสายเลือดดั้งเดิมหรือราชามังกร การสังเวยก็จะมากมายมหาศาล ประมาณอยู่ที่ 1 ล้าน

Trivia
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
*Wild Magic can also be used to forge magical items, an example would be Gazef's ring.
*
มนตราทมิฬสามารถใช้ได้จากไอเท็มมนต์ที่บรรจุมนตราทมิฬไว้ ตัวอย่างเช่น แหวนของกาเซฟ (เป็นของ ริกริท ให้กาเซฟ และกาเซฟให้ ไคลมป์)
*In the Web Novel, when Ainz tried to absorb the fallen soldiers exp, he ended up absorbing their souls. This way, we can say that Wild Magic consumes EXP rather than MP.
*
ใน เว็ปโนเวล (WN) เมื่อไอนซ์พยายามที่จะดูดซับ exp ของทหารที่ตาย เขาจบลงด้วยการดูดซับวิญญาณแทน ด้วยวิธีนี้เราพูดได้ว่า มนตราทมิฬใช้ exp แทนที่จะใช้ mp
)

(
ผู้แปล- Altina X Overlord Special Collaboration Booklet (อังกฤษ) - - - Altina X Overlord Special Collaboration Booklet (แปลไทย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น