InterMission
Vol.5 นอกบท
Intermission
เคร้ง เคร้ง เสียงของวัตถุโลหะกระทบกันดังขึ้น
หลังจากมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดตกค้างอยู่ที่ก้นถุงแล้ว ไอนส์ก็ได้เกลี่ยเหรียญที่กระจายอยู่บนโต๊ะ
เขาจัดเหรียญทองและเงินไว้เป็นตั้งๆละ10
แม้ว่าจะนับมาหลายครั้งแล้ว ไอนส์ก็ยังหยิบถุงออกมาคว่ำอีกครั้ง
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันว่างเปล่า หลังจากยืนยันเป็นครั้งที่สอง ไอนส์ก็โยนถุงเปล่าไปแล้วยกมือขึ้นกุมหัว
“ไม่พอ... นี่มันไม่ใกล้เคียงกับคำว่าพอเลย...”
ใบหน้ามนุษย์ของเขาที่เป็นภาพลวงตาได้สลายไป กองเหรียญตรงหน้าเขาเป็นแค่เงินเพียงเล็กน้อย แม้ว่าจำนวนของมันจะมากขนาดที่ว่าคนที่แข็งแรงทำงานร่วมสิบปียังไม่สามารถหา มาได้ แต่ในสายตาของผู้ปกครองสูงสุดแห่งมหาสุสานนาซาริค เพียงคนเดียวที่ทำงานหาเงินมา มันก็ยังไม่เพียงพอและทำให้เขาเครียดอยู่ในตอนนี้
จิตใจของไอนส์จะถูกทำให้สงบลงทันทีที่อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเขาถูกโจมตีด้วยความหวาดกลัวที่ว่าเหลือเหรียญเงินติดตัวเพียงแค่ เหรียญเดียว จิตใจของเขาจะกลับมาสงบทันที อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้มันไม่ตอบสนองเนื่องจากว่าในใจของเขารับรู้ว่าเขามีเหรียญทองอีกมาก มาย ทิ้งไว้แต่ความรู้สึกวิตกกังวลที่ลุกลามไป
ไอนส์สั่นหัวก่อนจะทำการแบ่งเหรียญทองออกไปตามที่พวกเขาจำเป็นต้องใช้
“อย่างแรกคือเงินทุนเพิ่มเติมให้เซบาส”
ใบหน้า(ที่ไม่มีอยู่)ของไอนส์แข็งทื่อทันทีที่เห็นว่ากองเหรียญนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว
“ต่อไปก็... ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูหมู่บ้านของลิซาร์ดแมนตามที่โคไคทัสร้องขออุปกรณ์ที่จำเป็น
แม้จะไม่ได้ใช้เยอะเท่ากับครั้งก่อนหน้า กองเหรียญก็ถูกแยกออกไปและเหลือเหรียญทองเพียงไม่กี่เหรียญ
(TL: จอมมารยาจกถือกำเนิดขึ้นอีกคนแล้ว)
“...พูดถึงของจำเป็นสำหรับหมู่บ้านลิซาร์ดแมน ฉันสามารถใช้เส้นสายในกิลด์ในฐานะนักผจญภัยระดับอดามันเทียมได้ มันน่าจะพอจะลดค่าใช้จ่ายได้สัก... ประมาณนี้มั๊ง?”
เขาดึงเหรียญทองจำนวนหนึ่งกลับจากกองของโคไคทัส
“...บางทีฉันควรหาพ่อค้าแล้วให้เขามาสปอนเซอร์ มันจะเป็นการสร้างรายได้อีกทางนอกจากการผจญภัย”
นับรวมไอนส์แล้ว นักผจญภัยระดับอดามันเทียมในอาณาจักรมีเพียงแต่สามปาร์ตี้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้รับการติดต่อจากพ่อค้าจำนวนมาก ไอนส์อยากตอบรับข้อเสนอมาก เนื่องจากพวกนั้นจ่ายง่ายจ่ายหนัก อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้เขาก็ยังลังเลที่จะทำ
เขากลัวว่าภาพลักษณ์ของโมมอนจะกลายเป็นคนโลภ ผู้คนจะมองเขาเป็นคนที่รับงานอะไรก็ได้เพื่อเงิน
ไอนส์วางแผนที่จะทำให้ ‘โมมอน’ เป็นนักผจญภัยที่ถูกยกย่องในทุกด้าน และยกทุกอย่างให้ ไอนส์ โอวล์ โกว์น เมื่อถึงเวลาอันสมควร เพื่อจะทำให้แผนประสบความสำเร็จ มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้
“แต่ว่า...ฉันก็ไม่มีเงินอยู่ดี หรือบางทีฉันไม่ควรพักในโรงแรมแบบนี้”
ไอนส์มองไปรอบๆห้องที่ตกแต่งอย่างงดงาม
นี่เป็นห้องพักดีที่สุดจากโรงแรมที่ดีที่สุดใน E-Rantel ค่าเช่านั้นสูงมาก แต่มันไร้ประโยชน์เนื่องจากไอนส์ไม่จำเป็นต้องนอน เขาจึงอยากใช้เงินไปเช่าที่อื่นมากกว่า
มันเป็นแบบเดียวกับอาหาร แม้ว่าเขาจะได้รับอาหารราคาแพงสักแค่ไหนพวกมันก็ไร้ประโยชน์ในเมื่อเขาไม่จำ เป็นต้องกิน มันคงจะดีกว่าถ้าจะปฏิเสธไปและเก็บเงินค่าอาหารไว้
อย่างไรก็ตาม ไอนส์รู้ดีว่าเขาทำอย่างนั้นไม่ได้
ไอนส์ ไม่สิ โมมอนนั้นเป็นนักผจญภัยระดับอดามันเทียมเพียงคนเดียวในเมืองนี้ เขาไม่สามารถใช้โรงแรมราคาถูกเป็นที่อยู่อาศัยได้
มันมีความจำเป็นในการใช้ชีวิตให้แตกต่างไปจากผู้อื่น นักผจญภัยระดับอดามันเทียมต้องแต่งกายและใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับฐานะของตน
เขาจำเป็นต้องแสดงเรื่องไร้สาระพวกนี้เพื่อรักษาภาพลักษณ์เอาไว้
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมไอนส์ไม่สามารถลดคุณภาพของโรงแรมแม้เขาจะรู้ว่ามันเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
“ถ้ากิลด์นักผจญภัยฉันมีคุณค่าพอ พวกเขาน่าจะจ่ายค่าห้องให้ฉัน ...อ่า... ฉันคิดดว่าถ้าไปขอน่าจะได้นะ”
แต่เขาไม่ต้องการที่จะติดหนี้บุญคุณ จนถึงตอนนี้เขาทำภารกิจมากมายเพื่อสร้างหนี้บุญคุณให้แก่ผู้อื่น เขาต้องการรักษามันไว้เพื่อเป็นแต้มต่อรอง การสูญเสียมันไปกับเรื่องเล็กน้อยจะทำให้รบกวนแผนของเขา
“อ๊า ปวดหัว จะทำยังไงดี? หรือควรจะไปรับคำร้องอีกสักหน่อย หลังจากนั้นล่ะ...? แต่วันนี้ก็ไม่มีอะไรที่ให้เงินคุ้มค่าเลย(TL: แปลว่าอันไหนจ่ายงามเอ็งกวาดหมดแล้วสินะ) แถมถ้าหยิบไปเยอะเดี๋ยวนักผจญภัยคนอื่นจะเหม็นหน้าเอาอีก”
เขาต้องการให้ ไอนส์ โอว์น โกว์น เป็นที่สุดแห่งตำนานที่มีความดีมากกว่าความชั่วร้ายเท่าที่จะทำได้ ไอนส์ทำท่าถอนหายใจและคำนวณค่าใช้จ่ายของเขาจากเหรียญที่เหลืออยู่
“พูดถึงเงินแล้ว ฉันควรทำยังไงกับค่าจ้างของการ์เดี้ยนดี?”
ไอนส์ครุ่นคิดในขณะที่เอนตัวพิงเก้าอี้แล้วเงยหน้ามองเพดาน
เหล่าการ์เดี้ยนยืนยันว่าพวกเขาไม่ต้องการอะไรอย่างพวกค่าจ้าง สิ่งที่พวกเขาต้องการมีเพียงแค่การได้รับใช้ผู้อยู่สูงสุดก็เป็นความสุขที่ สุดแล้ว
แต่จากมุมมองของไอนส์ เขาตั้งคำถามว่ามันเหมาะสมแก่ความเชื่อที่พวกเขามอบให้หรือเปล่า ผู้พยายามควรได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม
แม้ว่าเหล่าการ์เดี้ยนจะรับใช้ผู้อยู่สูงสุดเป็นรางวัลไปในตัว ในความเห็นของไอนส์มันก็ต่างออกไป
มันอาจเป็นแค่ความยุติธรรมส่วนตัวของเขาที่ทำงานเพื่อเงิน อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถละทิ้งความคิดที่ว่าการทำงานจะต้องได้รางวัล
เขากลัวว่าให้ค่าจ้างที่ไม่ดีพอต่อเด็กๆของเขาที่ไม่รู้อะไรมาก ถึงอย่างนั้นมันก็คุ้มค่าที่จะทดลองดู
“คำถามคือฉันจะให้รางวัลพวกเขาด้วยอะไรนี่สิ”
ดวงตาของเขาเลื่อนจากเพดานลงไปมองเศษเหรียญทองที่เหลืออยู่บนโต๊ะ
“ถ้าฉันเปรียบเทียบพวกการ์เดี้ยนเป็นหัวหน้าฝ่ายของบริษัท พวกเขาก็ควรได้อย่างน้อย15ล้านเยนต่อปี ...แชลเทียร์,โคไคทัส,ออรา,มาเร่,เดมิเอิร์จ...อัลเบโดควรได้เยอะกว่าอีก หน่อยไหมนะ? คูณด้วยหกและ... อืม เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่มีปัญญาหาเงินได้เยอะขนาดนั้น”
ไอนส์กุมขมับและเบิกตากว้างในทันที
“ใช่แล้ว! ฉันสามารถใช้อย่างอื่นที่เหมาะสมแทนได้! บางสิ่งที่สามารถใช้ได้เฉพาะในนาซาริค –สร้างบางอย่างจำพวกโน๊ตให้เด็กพวกนั้นแล้วให้หนึ่งอันมีค่าเท่ากับหนึ่งแสน เยน!”
หลังจากแหกปาก ไอนส์ก็เครียดอีกครั้ง
แต่อะไรที่พวกเขาจะใช้ซื้อล่ะ?
ทุกๆสิ่งในนาซาริคนั้นฟรี แม้ว่าเขาคิดจะผลิตเหรียญ ขาก็คิดไม่ออกว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร
“บางทีถ้าจะใช้ซื้อของในโลกนี้?”
ไอนส์เปรียบเทียบของทั่วไปในโลกนี้กับที่มีอยู่ในนาซาริคและสงสัยว่าจะมีอะไรที่เหล่าการ์เดี้ยนอยากได้
“แต่ถ้าฉันเริ่มเก็บเงินจากอะไรที่มันเคยฟรีจนถึงตอนนี้คงโดนต่อต้านแหง ควรทำยังไงดี”
หลังจากใช้เวลาคิดครู่ใหญ่ ไอนส์ก็ได้ความคิดดีๆมา
“ใช่แล้ว! ฉันก็แค่ถามพวกการ์เดี้ยนถึงพวกมัน ฉันสามารถถามถึงสิ่งที่เด็กพวกนั้นต้องการที่จะจ่ายเงินเพื่อให้ได้มันมา!”
หลังจากชื่นชมความคิดของตังเองได้สักพัก รอยยิ้มของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“ถึงจะพูดอย่างนั้น...”
เขาตระหนักว่าเขาพูดกับตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
เขารู้ว่ามันเริ่มจากตอนที่เกมใกล้จะปิดตัวลง ความเหงาจากการที่เพื่อนร่วมกิลด์ไม่ปรากฏตัว แต่ทำไมความรู้สึกนี้ไม่หายไปแม้กระทั่งหลังจากเปล่าNPCได้รับคำพูดและ สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง?
บางทีมันอาจติดเป็นนิสัย หรือไม่ก็----
“เพราะฉันยังคงตัวคนเดียว...”
ไอนส์ยิ้มอย่างเหงาหงอย
แน่ล่ะ การพูดว่าตัวคนเดียวทั้งๆที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยเหล่าNPCนั้นเป็นการเสีย มารยาทต่อพวกนั้น แต่เขาก็เพียงแค่ทำตัวเป็น ไอนส์ โอว์น โกว์น ผู้นำของ เหล่าผู้อยู่สูงสุดทั้ง 41 อย่างที่เหล่าการ์เดี้ยนต้องการ มันเป็นไปได้ที่เขากำลังฆ่าซูสุกิ ซาโตรุ
ไอนส์ถอนหายใจและหันกลับมาจ้องเหรียญที่อยู่บนโต๊ะ เป็นเวลาเดียวกับที่เขาได้ยินเสียงเคาะประตู
เมื่อเวลาผ่านไปสักพักประตูก็เปิดออก หลังจากยืนยันว่านั่นคือผู้ติดตามของเขา –นาเบรัล แกมมา ไอนส์ก็มีรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก ใบหน้าของเขาตอนนี้เหมือนกับว่ากำลังดูถูกผู้อื่นอยู่
เวทลวงตาขั้นต่ำที่ไอนส์สามารถใช้ได้นั้นจะแสดงอารมณ์ของเขาออกมาโดยตรง มันมีโอกาสที่เขาจะแสดงใบหน้าที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้ปกครองของนาซาริคอ อกไป นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาฝึกการแสดงออกหน้ากระจกนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อที่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาอยู่ต่อหน้าผู้อื่น –อย่างนาเบรัล- เขาจะดูสง่างามมากขึ้น เขาสามารถเลือกแสดงออกได้อย่างหลากหลายตามที่เขาต้องการ
“มีอะไร นาเบล”
เขาตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ค่ะ ท...โมมอน”
“...ดูเหมือนคำว่า ’ท่าน’ จะหลุดออกมานะ ถ้ามันติดเป็นนิสัยก็ช่วยไม่ได้ แต่จำไว้ให้ดี อย่างน้อยก็ต้องแก้ไขเมื่อข้าเตือน แม้จะชั่วครั้งชั่วคราวก็ตาม เจ้าต้องพยายามให้มากขึ้น อ่า ไม่จำเป็นต้องก้มหัว ข้าไม่ได้โกรธอะไร แล้วการแสดงความเคารพต่อข้า... มันคงไม่มีปัญหาอะไรเนื่องจากคนอื่นๆรวมถึงหัวหน้ากิลด์มีความเข้าใจผิดอะไร สักอย่างเกี่ยวกับเรา แล้ว มีอะไร?
“ค่ะ แร่เหล็กที่ท่านสั่งให้หาจากพ่อค้าได้มาถึงแล้ว”
ไม่ใช่สั่งให้หา ฉันแค่ซื้อมาแบบปกติ...
คิดอยู่ในใจ ส่วนใบหน้าของเขานั้นไม่แสดงอะไรออกมา
“รู้แล้ว... แร่เหล็กพวกนั้นมาจากที่ไหนล่ะ? ใช่จากเหมืองทั้งแปดรึเปล่า?
“ข้าต้องขออภัย ข้าไม่รู้เลย”
“...ไม่เป็นไร ข้ายังมีเงินอีกเยอะ แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันถูกขุดมาจากที่ไหนบ้าง ข้าก็ยังมีเงินเพียงพอที่จะซื้อมันทั้งหมดอยู่ดี”
ไอนส์กวาดกองเหรียญบนโต๊ะใส่ถุงและโยนมันไปที่ด้านหน้าของนาเบรัล เขามองเธอก้มเก็บมันขึ้นมาอย่างสุภาพ
“รับทราบค่ะ แต่ข้าขอถามอะไรสักนิด”
“ข้าคิดว่าเจ้าต้องการรู้เหตุผลที่ข้าซื้อแร่เหล็กจากหลายสถานที่ใช่ไหม?”
นาเบรัลพยักหน้า ไอนส์จึงเริ่มอธิบาย
“ข้าจะโยนมันเข้าไปในกล่องแลกเปลี่ยน พูดอีกอย่างคือ ข้าต้องการทดสอบว่าเงินที่ได้รับจะเท่ากันในแต่ละเหมืองที่ขุดมารึเปล่า” (TL: คือหมอนี่จะโยนใส่กล่องที่แลกไอเท็มเป็นเงิน แล้วทดสอบดูว่าแร่เหล็กจากเหมืองคนละที่จะถูกตีออกมาเป็นราคาเท่ากันรึ เปล่า)
กล่องแลกเปลี่ยนนั้นไม่ได้รับอิทธิพลมาวัตสดุที่แท้จริง ยกตัวอย่างเช่น รูปปั้นหินที่สลักอย่างงดงาม มันจะมองข้ามคุณภาพของการแกะสลักและคำนวณราคาเท่ากับหินหนึ่งก้อนที่มี น้ำหนักเท่ากัน จึงสามารถนำไปใช้ทดสอบความแตกต่างขององค์ประกอบได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาต้องการซื้อแร่เหล็กจากหลายสถานที่
“อย่างที่เจ้ารู้ นาเบล มันใช้ได้แม้กระทั่งเจ้าใส่บางสิ่งอย่างข้าวบาร์เลย์ลงไป”
แม้ว่าฉันจะใส่ลงไปเยอะโครตๆแล้วได้มาแค่เหรียญทองเหรียญเดียวก็เถอะ ---ไอนส์คิดในใจ
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการปลูกข้าวบาร์เลย์ในพื้นที่นอกนาซาริค เพื่อที่จะเก็บเกี่ยวได้เยอะๆ
โดยการใช้โกเลมและอันเดตในการสร้างพื้นที่เพาะปลูก แน่นอนว่ามันมีอุปสรรคมากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้
“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะซื้อพวกมันมากเท่าที่จะทำได้”
“ถูกต้อง แต่จงระวังตัวให้ดี ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเจ้าจะไม่ถูกจู่โจม หากเกิดอะไรขึ้น... เจ้าเข้าใจสิ่งที่ต้องทำใช่ไหม?”
“ใช้อสูรเงาเป็นโล่ ละทิ้งการรวบรวมข้อมูล ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของตนเป็นอันดับหนึ่งและตั้งสมาธิไปกับการล่าถอย ข้าจะเคลื่อนที่ไปยังนาซาริคปลอมของท่านออร่า และแพร่ข่าวลวงให้แก่ศัตรู”
“ถูกต้อง ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเจ้า จงอย่าใช้ถนนที่ง่ายต่อการถูกจู่โจมหรือพื้นที่เปลี่ยว และแม้ว่ามนุษย์จะพูดคุยหรือพยายามยั่วยุเจ้า จงอย่าทำอันตรายแก่พวกมัน ข้าค่อนข้างตกใจตอนเห็นคนมาร้องไห้อ้อนวอนให้ช่วยโดยบอกว่ามันแค่พยายามแตะ ตัวเจ้า เจ้าจะต้องควบคุมความกระหายเลือดไว้ ข้าจะไม่พูดถึงขั้นว่าห้ามซัดพวกล้วงกระเป๋าเมื่อเจ้าพบมัน แต่อย่าทำรุนแรงจนเกินไป อีกอย่าง หลีกเลี่ยงการเรียกมนุษย์ว่าแมลง นอกจากนั้น พยายามอย่าทำร้านหรือฆ่ามนุษย์ เพราะพวกเราคือนักผจญภัยที่แข็งแกร่งที่สุด โมมอนและนาเบลแห่งสีดำ จำไว้ให้ดี”
ระหว่างมองนาเบรัลกำลังแสดงท่าทางไม่เข้าใจ ไอนส์คิดถึงเรื่องข้อควรระวังต่างๆที่เขาอาจลืมเตือนและพยักหน้า
“...อืม น่าจะไม่มีอะไรแล้ว ไปได้แล้วนาเบล”
หลังจากดึงสายรัดปากถุง นาเบรัลก้มหัวลงและออกจากห้องไป ไอนส์มองตามแผ่นหลังของเธอจนลับตา จากนั้นถอนหายใจหนักๆจากปอดที่ไม่มีแล้วของเขา
“ค่าใช้จ่ายแม่งผุดมาตอนตูไม่มีตังซะอีก เวรเอ๊ย”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น